info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.237.186.170

“รพ.เอกชัย” ทุ่มงบฯ 110 ล้าน ผุดโรงพยาบาลเฉพาะทางจับผู้สูงวัย

Hospital News / ข่าวหมวดโรงพยาบาล

รพ.เอกชัยปรับทัพใหญ่ ทุ่มงบฯ 110 ล้าน ปักหมุด รพ.เฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุขนาดเล็ก 30 เตียง เจาะย่านทราฟฟิกสูงริมถนนพระราม 2 ชู 3 บริการครบวงจร รพ.รักษาผู้สูงวัย-เนิร์สซิ่งโฮม-เดย์แคร์ ทำกิจกรรมไปเช้าเย็นกลับ รับเทรนด์สังคมสูงวัย ดีเดย์สงกรานต์ปี’65 พร้อมปั้นเทเลเมดิซีนเดินหน้าดิจิทัลเฮลท์-เข้าลงทุนเดอะคลีนิกค์ฯสยายปีกธุรกิจคลินิกความงาม ย้ำเป้าเติบโตระยะยาว

นายสุทธิพงศ์ ตั้งสัจจะพจน์ กรรมการและผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน (CFO) บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชัย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด ส่งผลกระทบการเดินทางในหลาย ๆ ประเทศ ทำให้ลูกค้ากลุ่มต่างประเทศไม่สามารถเดินทางมารักษาในประเทศไทยได้ ในส่วนคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก (EKI-IVF) ย่านพระราม 9 ในเครือ EKH ที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ อาทิ จีน ได้รับผลกระทบสูง

แต่เนื่องด้วย รพ.เอกชัยเน้นเจาะกลุ่มคนไทยถึง 90% จึงไม่ได้รับผลกระทบ และมีปัจจัยบวกจากการแพร่ระบาดโควิดระลอก 2 ในจังหวัดสมุทรสาคร ฐานที่ตั้งของ รพ. ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าคนไทยขยายตัวสูงขึ้น จากบริการการตรวจโควิดและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่ในเดือนกันยายนแนวโน้มโควิดเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้การฟื้นตัวในแง่ผู้ป่วยปกติเริ่มกลับมา โดยเฉพาะในไตรมาส 4 เคสผ่าตัดที่มีการเลื่อนหรือชะลอออกไปก็เริ่มกลับมา ทำให้ปี 2564 รพ.เอกชัยทำรายได้สูงสุดนับตั้งแต่มีการเปิดบริการมา 15 ปี

สำหรับยุทธศาสตร์สำคัญในปี 2564-2565 คือ การลงทุนสร้างการเติบโตระยะยาว โดยนำรายได้จากผลประกอบการส่วนหนึ่ง มาเป็นงบฯลงทุนราว 110 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) เพื่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จดทะเบียนภายใต้บริษัท เอกชัย เนอร์สซิ่งโฮม จำกัด ทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง อาคาร 5 ชั้น ขนาด 4,000-5,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดิน 600 ตารางวา ย่านถนนพระราม 2 เพื่อตอบโจทย์การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ หรือการมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นปี เกินกว่า 20% ของประเทศไทยภายในปี 2564

“การทำโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุวางแผนการก่อสร้างไว้ราว 3 ปี เบื้องต้นวางแผนจะเปิดในช่วงสิ้นปี 2564 แต่ด้วยปัญหาโควิด และต้องระงับการก่อสร้างราว 2 เดือน ส่งผลให้แผนเดิมที่วางไว้ต้องเลื่อนออกไปเล็กน้อย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการช่วงหลังวันสงกรานต์ปี 2565 เพื่อรอให้สถานการณ์โควิดในประเทศคลี่คลายไปในทิศทางบวกมากกว่านี้ก่อน”

ส่วนลักษณะการให้บริการจะชูจุดแข็งการเป็น รพ.เฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร ที่ปัจจุบันยังไม่ค่อยมีเชนโรงพยาบาลใดทำครบวงจรมากถึงขนาดนี้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.โรงพยาบาลเฉพาะทางสูงวัย รับเคสดูแลผู้ป่วยสูงอายุโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยสูงวัยระยะสุดท้าย 2.เนิร์สซิ่งโฮม สำหรับพักฟื้นและดูแลผู้ป่วยสูงอายุ และ 3.เดย์แคร์ นำผู้สูงอายุเข้าทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือกายภาพบำบัดในรูปแบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยแต่ละบริการจะเจาะเซ็กเมนต์อย่างหลากหลายให้ครอบคลุมทุกความต้องการ

ขณะที่อีกกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การปรับโรงพยาบาลให้มีความเป็นดิจิทัลเฮลท์มากขึ้น โดยปัจจุบัน รพ.เอกชัยได้นำดาต้าเบสของโรงพยาบาลมาต่อยอดลงทุนการทำแอปพลิเคชั่นแพลตฟอร์มของตนเอง ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนากับบริษัทพัฒนาแอปพลิเคชั่น โดยตั้งเป้าไว้ที่การทำเทเลเมดิซีน ช่วยในเรื่องการนัดและการติดต่อระหว่างโรงพยาบาลและผู้ป่วยให้สมูทขึ้น คาดว่าพร้อมจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2565

“คาดว่าในปี 2565 ยังถือเป็นอีก 1 ปีแห่งความท้าทายของกลุ่มธุรกิจ รพ.เอกชน ในสภาวะกำลังซื้อผู้บริโภคอาจฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ส่วนรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับโควิดน่าจะลดลงด้วยการระดมฉีดวัคซีน ทำให้ผู้ป่วยไม่เกิดอาการรุนแรง และสุดท้ายจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่เชื่อว่าธุรกิจยังไปได้ดีด้วยเทรนด์การรักษาสุขภาพมาแรงในกลุ่มผู้บริโภค

ทว่าเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว รพ.เอกชัยได้เข้าไปลงทุนในบริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 10% ภายใต้งบฯลงทุน 165 ล้านบาท เพื่อลุยธุรกิจความงาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตได้ดี โดยในอนาคตอาจมีการร่วมมือธุรกิจกันเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยและหารือกันเพิ่มเติม” นายสุทธิพงศ์กล่าว

4/11/2564  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (4 พฤศจิกายน 2564)

Youtube Channel