found & found เปิดฉากทำตลาดแบบตะโกน หลังสิ้นสุดระยะตั้งไข่ ลุยแคมเปญสื่อสารเต็มพิกัดประเดิมดึงคู่จิ้นคนดังร่วมงานเปิดสาขา พร้อมบุก TikTok Shop สิงหาคมนี้หวังเสริมแกร่งอีคอมเมิร์ซ ด้านร้านออฟไลน์ไตรมาส 3-4 เร่งวางฐานแผนสปีดครบ 50 สาขา ปี69 แย้มเล็งขายแฟรนไชส์หลังครบ 150 สาขา ก่อนก้าวกระโดดสู่ 500 สาขา ปี73
นายณัฐพล ชูจิตารมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด ผู้บริหารเชนร้านสินค้าความงาม found & found กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ ตลาดสินค้าความงามในไทยยังมีศักยภาพสูง ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่จะสูงถึง 8-9% จากปี 2567 ทำให้สิ้นปี 2568 ตลาดจะมีมูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท
ณัฐพล ชูจิตารมย์
โดยมีแรงหนุนจาก 3 ปัจจัย คือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่ดูแลตนเองมากขึ้น และความต้องการสินค้าที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายในชิ้นเดียว เช่น ครีมกันแดดผสมคอลลาเจน หรือโฟมล้างหน้าที่ใช้เป็นอาฟเตอร์เชฟได้ด้วย เป็นต้น ทำให้ตลาดมีดีมานด์ต่อเนื่อง ขณะที่แบรนด์สินค้าต่างรับลูกด้วยการส่งสินค้าที่ตอบโจทย์แบบเฉพาะบุคคลออกมา ทำให้ตลาดคึกคักจากการที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกใหม่ ๆ อยู่เสมอ
นอกจากนี้ตลาดยังมีช่องว่างให้ผู้เล่นรายใหม่ โดยเฉพาะร้านค้าแบบออฟไลน์สามารถท้าชิงส่วนแบ่งและตำแหน่งเจ้าตลาดได้ หลังแบรนด์หลัก 5 รายมีส่วนแบ่งตลาดร่วมกันเพียงประมาณ 10% เท่านั้น สะท้อนภาพที่ยังไม่มีเจ้าตลาดชัดเจน รวมถึงพฤติกรรมเฉพาะตัวของผู้บริโภคในตลาดความงามที่ต้องการจับจ่ายในร้านค้าออฟไลน์เพื่อทดลองสินค้า เช่น เนื้อสัมผัสและเฉดสี ฯลฯ ซึ่งไม่สามารถทำได้ผ่านออนไลน์
จึงเป็นโอกาสที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะชิงส่วนแบ่งเม็ดเงิน รวมไปถึงโพซิชั่นเจ้าตลาดด้วยความแตกต่างของไลน์อัพสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ และประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ตอบโจทย์ความสะดวก
สิ้นสุดช่วงทดลอง
นายณัฐพลกล่าวต่อไปว่า ด้วยปัจจัยบวกและโอกาสเหล่านี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นไป found & found จะสปีดธุรกิจเต็มที่ทั้งด้านการทำตลาดสร้างการรับรู้แบรนด์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มธุรกิจเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 โดยจะมุ่งย้ำโพซิชั่นร้านสินค้าความงามที่ร่วมสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลีราคาจับต้องง่าย และการเป็นผู้นำเข้าโดยตรงจากสุกิ โฮลดิ้งส์ (Sugi Holdings) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจเครือข่ายร้านขายยาและแพลตฟอร์มนาโนเทคโนโลยีของญี่ปุ่น
ก่อนที่ไตรมาส 3-4 จะเริ่มเตรียมวางรากฐานการสปีดสาขาตามเป้าก้าวกระโดดสู่ 50 สาขา ภายในสิ้นปี 2569 และ 500 สาขา ในปี 2573 โดยในจำนวนนี้จะมีทำเลในสถานีบริการน้ำมันเป็นหลัก
หลังใช้เวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาทดลองเปิดร้านในทำเลต่าง ๆ ทั้งสถานีบริการน้ำมัน, ซูเปอร์มาร์เก็ต, อาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
เปิดฉากทำตลาดแบบตะโกน
ในส่วนของการทำการตลาดนั้น ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 68 จะเน้นความหวือหวาเหมือนการตะโกน ย้ำจุดแข็งของ found & found ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและสร้างความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ทั้งด้านความสะดวกสบายขั้นสุดในการเข้าถึงสาขาและตัวสินค้า ตามแนวคิด SIMPLE. EASY. EVERYSKIN. หรือดูดี เฮลตี้ ที่นี่ทุกวัน จากการต่อยอดโลเกชั่นศูนย์บริการน้ำมัน PTT Station และร้านคาเฟ่อเมซอนจำนวนกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศเป็นที่ตั้งสาขา
พร้อมกับกลยุทธ์การจัดร้านที่เน้นให้ลูกค้าหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายที่สุด โดยแบ่งประเภทและหมวดหมู่สินค้าชัดเจน อาทิ สินค้าญี่ปุ่น, สินค้าเกาหลี พร้อมมุมแนะนำการใช้สินค้าอย่างการดูแลผิว 5 ขั้นตอนเพื่อช่วยให้ลูกค้าโดยเฉพาะผู้ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับสินค้ากลุ่มนี้ เข้าใจและเลือกใช้สินค้าได้ง่ายขึ้น
ขณะที่สินค้าในแต่ละสาขาจะปรับไลน์อัพตามผู้บริโภคในพื้นที่ เช่น สาขาในพื้นที่ที่เป็นจุดเดินทางจะเน้นสินค้าขนาดเล็กที่สะดวกต่อการเดินทาง, สาขาที่อยู่ในพื้นที่สำนักงานจะเน้นสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางที่ขายดี, ส่วนในซูเปอร์มาร์เก็ต จะรวมสินค้านำเข้าโดยเฉพาะ เป็นต้น รวมถึงมีโปรโมชั่นร่วมกับคาเฟ่ อเมซอนและ PTT Station ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เช่น เมื่อซื้อเครื่องดื่มอเมซอนจะได้คูปองส่วนลด found & found
รวมถึงย้ำจุดเด่นด้านการมีสินค้านำเข้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟจากญี่ปุ่นอย่าง DR ZERO, Cica Method และ S Select และเกาหลี อาทิ 7 แบรนด์ดังจาก OLIVE YOUNG ประกอบด้วย BIO HEAL_BOH, BRING GREEN, ROUND AROUND, WAKE MAKE, Colorgram, FILLIMILL และ IDEAL FOR MEN
ประเดิมด้วยการดึงคู่จิ้นแห่งปี เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ และไบเบิ้ล-วิชญ์ภาส สุเมตติกุล มาร่วมงานฉลองเปิดตัวร้าน found & found สาขาศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ซึ่งถือเป็นสาขาแรกของแบรนด์ภายในศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา
ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 68 เราเริ่มทำตลาดแบบตะโกนเต็มที่ หลังที่ผ่านมาเรายังมีสาขาน้อยไม่คุ้มที่จะลงทุนทำการตลาดไปแล้วลูกค้าไม่สามารถหาร้านใช้บริการได้ แต่ปัจจุบัน found & found มีสาขา 9 สาขา และจะครบ 12 สาขา ในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ กระจายในหลายพื้นที่ของ กทม.และจังหวัดใกล้เคียง อาทิ สายไหม, บรมราชชนนี, พระราม 4, สีลม, รามคำแหง, บางแค, จังหวัดเพชรบุรี, จังหวัดระยอง จึงคุ้มค่าที่จะเริ่มทำการตลาด
บุก TikTok Shop ส.ค.นี้
นอกจากการขยายสาขาแบบออฟไลน์แล้ว บริษัทยังมีแผนเปิด TikTok Shop ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากแม้จุดเด่นของบริษัทจะสะท้อนได้ชัดเจนดีในร้านออฟไลน์ แต่ช่องทางออนไลน์ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ของธุรกิจร้านสินค้าความงาม ซึ่งบริษัทจะรับมือการแข่งขันบนออนไลน์ด้วยการเน้นย้ำเรื่องความน่าเชื่อถือในฐานะเป็นผู้นำเข้าโดยตรง เพื่อตอบโจทย์ความกังวลเรื่องสินค้าปลอมของผู้บริโภคที่ช็อปออนไลน์
หลังก่อนหน้านี้จับมือแกร็บ ประเทศไทย นำสินค้าในร้านเข้าไปวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม GrabMart พร้อมส่งถึงบ้านภายใน 25 นาที เพื่อเสริมแกร่งด้านความสะดวกรวดเร็ว และการเข้าถึงสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการทำให้การดูแลตัวเองเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้
ขณะเดียวกันในไตรมาส 3-4 บริษัทมีแผนเสริมศักยภาพให้กับทัพพนักงาน BA-Beauty Advisor ที่มี 3-4 คนในแต่ละสาขาและมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในสินค้าความงามญี่ปุ่นและเกาหลี ด้วยแท็บเลตที่รวบรวมข้อมูลรายละเอียดสินค้าแต่ละรายการ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เล็งขายแฟรนไชส์
นอกจากนี้ นายณัฐพลยังแย้มว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงทดลองโมเดลใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โมเดลที่มีประสิทธิภาพสำหรับทำเลและฐานผู้บริโภคกลุ่มต่าง ๆ ต่อยอดจากที่ขณะนี้มีสาขาแบบตั้งติดกันและมีทางเชื่อมต่อระหว่าง found & found กับคาเฟ่อเมซอน ซึ่งได้รับการตอบรับดี
รวมถึงในอนาคตมีแผนขายแฟรนไชส์ร้าน found & found เพื่อเร่งสปีดการขยายสาขาไปอีกขั้น โดยจะเริ่มแผนหลังมีสาขาครบ 150 สาขา เพื่อให้แนวทางต่าง ๆ อาทิ โมเดลร้านมีความชัดเจนก่อน ทั้งนี้ เบื้องต้นวางสัดส่วนสาขา found & found แบบแฟรนไชส์และบริษัทลงทุนเองไว้ที่ 80 ต่อ 20 อย่างไรก็ตามรายละเอียดต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์หลังจากนี้
ส่วนการขยายสาขาตามแผนมุ่งสู่ 500 สาขา ในปี 2573 นั้น จะเริ่มจากพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง จากนั้นจะค่อย ๆ กระจายตัวไปในลักษณะที่เป็นภาค เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ เชื่อว่ายุทธศาสตร์เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทสามารถสปีดสาขา found & found ครบ 50 สาขา ในปี 2569 และ 500 สาขา ภายในปี 2573 รวมถึงชิงตำแหน่งเจ้าตลาดร้านสินค้าสุขภาพและความงามของไทยมาครองได้
13/6/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 13 มิถุนายน 2568 )