ยักษ์ใหญ่พลังงานหมุนเวียนพาเหรดคว้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก หลังยื่นข้อเสนอ 246 ราย ผ่านการพิจารณา 95 ราย มีทั้งกลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่มโรงไฟฟ้าชุมชน กลุ่มพลังงานชุมชนใหม่ ไปจนถึงบริษัทโซลาร์และกลุ่มบริษัททางการเกษตร ทั้งโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และ โรงงานน้ำตาล เปิดก๊อกสองไม่ผ่านการพิจารณายื่นอุทธรณ์ใหม่ได้
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏมีผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าผ่านการพิจารณาทั้งหมด 95 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ยื่นขออยู่ในกลุ่มเดียวกันมากกว่า 5 กลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ไปจนกระทั่งถึงบริษัททางการเกษตร
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นโครงการนำร่องจำนวน 150 เมกะวัตต์ (MW) มีผู้สนใจเข้ายื่นซองจริงทั้งหมด 246 ราย แบ่งเป็นประเภทโรงไฟฟ้าชีวมวล 143 ราย และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 103 ราย ซึ่งถือว่า มายื่นเกินความคาดหมาย
โดยโครงการนี้ จะเปิดรับซื้อไฟฟ้ารวม 150 MW แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 75 MW เสนอขายโครงการละไม่เกิน 6 MW และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%) 75 MW เสนอขายโครงการละไม่เกิน 3 MW
อัตรารับซื้อไฟฟ้า แบ่งเป็น 1) ชีวมวล กำลังผลิตติดตั้งไม่เกิน 3 MW คิดอัตรา feed-in tariff (FIT) ที่ 4.8482 บาท/หน่วย กำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 3 MW คิดอัตรา FIT ที่ 4.2636 บาท/หน่วย 2) ก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) มี FIT ที่ 4.7269 บาท/หน่วย โดยทั้งหมดมีระยะเวลาสนับสนุน 20 ปี และมี FIT Premium สำหรับพื้นที่พิเศษอีก 0.50 บาท/หน่วย
ล่าสุด คณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมากที่ผ่านคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิคเรียบร้อยแล้วจำนวน 95 ราย
ประชาชาติธุรกิจ ได้ตรวจสอบผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและด้านเทคนิคครั้งนี้ พบกลุ่มบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ นายธนวิจิตร อังคพิพัฒนชัย, นายธีรวุฒิ ทรงเมตตรา และนายพรเมตต์ ทรงเมตตา มีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ผ่านการพิจารณามากที่สุด อาทิ บริษัทโรงไฟฟ้าชุมชนคลองขลุง, โรงไฟฟ้าชุมชนศรีสะเกษ, โรงไฟฟ้าชุมชนบางเลน, โรงไฟฟ้าชุมชนบุรีรัมย์พัฒนา, โรงไฟฟ้าชุมชนค้อวัง,โรงไฟฟ้าชุมชนอากาศอำนวย, โรงไฟฟ้าชุมชนโนนท่อน, โรงไฟฟ้าชุมชนสุรินทร์, โรงไฟฟ้าชุมชนหนองหงส์, โรงไฟฟ้าชุมชนกำแพงเพชร, โรงไฟฟ้าชุมชนคลองขลุงพัฒนา, โรงไฟฟ้าชุมชนหนองบัวลำภู, โรงไฟฟ้าชุมชนหล่มสัก, โรงไฟฟ้าชุมชนกำแพงเพชรก้าวไกล, โรงไฟฟ้าชุมชนสระบุรี, โรงไฟฟ้าชุมชนขาณุวรลักษบุรี, โรงไฟฟ้าชุมชนกำแพงเพชรพัฒนา, โรงไฟฟ้าชุมชนสกลนครพัฒนา, โรงไฟฟ้าชุมชนจอมบึง และโรงไฟฟ้าชุมชนนครสดใส
รองลงมาได้แก่ กลุ่มบริษัททีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) แจ้งประกอบกิจการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและกิจการผลิตไฟฟ้า ผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี, นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล, นายปฐมพล สาวทรัพย์, นายพล คงเสือ มีโรงไฟฟ้าชุมชนผ่านการพิจารณาถึง 7 แห่ง ได้แก่ บริษัททีพีซีเอช เพาเวอร์ 9-10-11-14-15-18-19
กลุ่มบริษัทบีเอ็มซี เอ็นเนอร์ยี 6 แห่ง ได้แก่ บริษัทสงขลา วิลเลจ เอ็นเนอร์ยี, โรงไฟฟ้าชุมชนชัยภูมิ (โครงการ 2), โรงไฟฟ้าชุมชนสุพรรณบุรี และโรงไฟฟ้าชุมชนกาฬสินธุ์ (โครงการ 1-2)
นอกจากนี้ยังมี กลุ่มดับเบิ้ลไนน์ กรีน แจ้งประกอบกิจการผลิตและการส่งไฟฟ้า มีโรงไฟฟ้าชุมชนผ่านการพิจารณา 4 แห่ง ได้แก่ บริษัทศรีสาคร กรีน, บริษัทแม่สอด กรีน, บริษัทชนแดน กรีน และบริษัทบันนังสตา กรีน
กลุ่มเมโทรเอ็นเนอร์ยี่ ผ่านการพิจารณา 4 แห่ง ได้แก่ บริษัทพลังงานชุมชนใหม่นาเพียง, บริษัทพลังงานชุมชนบ้านดุง, บริษัทชุมชนเพ็ญ และ บริษัทชุมชนอากาศอำนวย และยังมีกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล ผ่านการพิจารณาอีก 1 แห่ง ในนามของบริษัทปทุมรัตต์กรีนเพาเวอร์ ด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางกลุ่มบริษัทแอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ได้ออกมาประกาศมีบริษัทย่อยของกลุ่มได้รับการคัดเลือกในโครงการนี้ถึง 29 บริษัท คิดเป็นกำลังผลิตติดตั้งรวม 93 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตเสนอขาย 78.85 MW
อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าชุมชนที่ไม่ผ่านการพิจารณาครั้งนี้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) โดยคณะอนุกรรมการจะพิจารณาอุทธรณ์จาก 1) กรณีสำเนาหนังสือจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนหรือสำเนารายชื่อสมาชิกวิสาหกิจชุมชนไม่ลงนามรับรองโดยนายทะเบียน 2) กรณีหนังสือตรวจสอบที่ตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง 3) กรณีไม่ยื่นแผนผังรวมที่ดินพื้นที่เพาะปลูกของโครงการ และ 4) กรณียื่นหนังสือสนับสนุนทางการเงินไม่ถูกต้อง
30/7/2564 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (30 กรกฎาคม 2564)
