ผอ.การท่าเรือฯ ร่วมลงนาม MOU หัวเว่ย หวังนำประสบการณ์ Automation port หัวเว่ยอัพเกรดท่าเรือกรุงเทพ เตรียมศึกษาแผนงานพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ แบ่งท่าเรือเดิม ท่าเรือใหม่ เชื่อไม่กระทบการพนักงานเดิม
วันที่ 25 ตุลาคม 2565 บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยมีนายเควิน เฉิง ประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมคิดค้นเทคโนโลยีพัฒนาธุรกิจท่าเรือ
พร้อมด้วยนายเรืองศักดิ์ บำเหน็จพันธุ์ รองผู้อำนวยการ กทท. สายเทคโนโลยีสารสนเทศ และนายหลู หย่งผิง รองประธานอาวุโสและหัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจคัสตอมแอนด์พอร์ต บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานฯ เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านธุรกิจใหม่ รวมทั้งคิดค้นบริการดิจิทัลที่ทันสมัยและการถ่ายทอดความรู้ ทักษะความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ
สำหรับขอบเขตความร่วมมือดังกล่าวเป็นการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจดิจิทัลและพัฒนาบริการโซลูชั่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการคิดค้นเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถนำมาใช้กับกิจการท่าเรือและธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่เป็นประโยชน์ในการให้บริการของ กทท. สู่การเป็นท่าเรืออัจฉริยะที่มีมาตรฐานด้านเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานและการให้บริการของ กทท.
ตลอดจนการให้คำปรึกษา วางแผน และออกแบบก่อสร้างท่าเรืออัจฉริยะ การส่งเสริมและดำเนินการให้บริการโซลูชั่น ตลอดจนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขั้นสูง (ICT) เข้ามาใช้พัฒนาโครงการต่าง ๆ ของ กทท. ในอนาคต อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Smart Dry Port) โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เป็นต้น
พร้อมทั้งเพิ่มทักษะการเรียนรู้ กิจกรรมการฝึกอบรมเพื่อสาธิตระบบการทำงานด้านเทคโนโลยี 5G และนวัตกรรมดิจิทัลอื่น ๆ รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในการมุ่งสู่การเป็นท่าเรืออัจฉริยะและท่าเรือสีเขียว โดยทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งต้นแบบการกำกับดูแลพันธมิตรทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์และกลุ่มนวัตกรรมร่วม พร้อมกำหนดแนวทางการติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอต่อไป
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การลงนามใน MOU ระหว่างการท่าเรือฯและหัวเว่ยในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือซึ่งมีระยะเวลา 3 ปีเพื่อให้ทางหัวเวยได้ให้คำแนะนำในการวางแผน ศึกษาและออกแบบการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพสู่ท่าเรืออัจฉริยะ (Automation Port) และท่าเรือสีเขียว (Green Port) โดยหัวเว่ยมีประสบการณ์จากการนำเทคโนโลยี 5G ใช้ในท่าเรืออัจริยะในประเทศจีนมาแล้ว และทางหัวเว่ยยังมีความพร้อมด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) จากการมีพนังงานในส่วนนี้ประมาณ 200,000 คนทั่วโลก
โดยความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่การจ้างหัวเว่ยศึกษา แต่ทางหัวเว่ยจะให้คำแนะนำในการศึกษาและออกแบบการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ
โดยท่าเรือกรุงเทพหลังการพัฒนาจะมี 2 รูปแบบควบคู่กัน คือ ท่าเรือเดิม และท่าเรืออัจฉริยะ โดยจะมีการแบ่งประเภทสินค้าในแต่ละท่าเรือ การเปลี่ยนเป็นท่าเรืออัจฉริยะนี้จะไม่กระทบต่อการจ้างงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย แต่จะเป็นการทำให้พนักงานการท่าเรือทำงานได้ดีขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น
26/10/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (25 ตุลาคม 2565)