info@icons.co.th 02 810 8892-6 216.73.216.9

‘ดีแคทลอน’ ปรับโฉมใหญ่รับปี’68 ส่งโมเดลใหม่-สินค้าไอคอนิกชิงตลาดกีฬา

Retails News / ข่าวหมวดห้างสรรพสินค้า

ดีแคทลอนเผยแผนปี’68 ชิงจังหวะครบรอบ 10 ปีในไทย ปรับโฉมแบรนด์ ต่อยอดธุรกิจ เน้นเปิดสโตร์หลากหลายโมเดล ขนสินค้านวัตกรรม ไลฟ์สไตล์เสริมทัพย้ำโพซิชั่นสปอร์ตสเปเชียลิสต์ พร้อมสปีดสาขาเจาะลึกโซนที่พักอาศัยและเขตชุมชน ประเดิมเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ต้น ม.ค.ปีหน้า ตามด้วยพัทยา-เชียงใหม่ มั่นใจตลาดสินค้ากีฬาโตแกร่ง หลังกระแสเล่นกีฬายังแรง

นายดีเรน เชตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแคทลอน ประเทศไทย ผู้บริหารแบรนด์กีฬาจากฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันมี 26 สาขาในไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแนวโน้มของตลาดสินค้ากีฬาในไทยท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจ และทิศทางของดีแคทลอนในปี 2568 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 10 ปีของการเปิดสโตร์สาขาแรกในประเทศไทยว่า ตลาดสินค้ากีฬาในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งด้านจำนวนผู้เล่นกีฬาและดีมานด์สินค้า-บริการจากการที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มอายุและทุกระดับกำลังซื้อ หันมาเล่นกีฬาและลงทุนกับอุปกรณ์ด้วยแรงผลักดันด้านสุขภาพ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีความพร้อมทั้งสถานที่เล่นและร้านขายอุปกรณ์

โดยกีฬาที่ได้รับความนิยมนั้น นอกจากกีฬาพื้นฐานอย่างวิ่ง, ฟิตเนส, แบดมินตัน, ตั้งแคมป์-เดินป่า และกีฬาทางน้ำต่าง ๆ แล้ว กีฬาชนิดใหม่ ๆ ยังมีฐานผู้เล่นเพิ่มขึ้นทั่วประเทศอย่างชัดเจนด้วย เช่น ปาเดล (Padel) และพิกเคิลบอล (Pickleball) ที่คล้ายเทนนิสแต่เล่นง่ายกว่า ซึ่งเริ่มเข้ามาในไทยเมื่อ 2-3 ปีก่อน และปัจจุบันสามารถพบการเล่นได้มากขึ้นตามเทรนด์กีฬา ซึ่งกีฬา 2 ประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศในโซนยุโรป

“ด้วยความรักการเล่นกีฬาของคนไทย และแรงหนุนจากกระแสสุขภาพ รวมถึงสถานที่เล่นกีฬาที่เข้าถึงง่าย จะทำให้ปี 2568 เป็นปีที่ดีทั้งสำหรับการเล่นกีฬาและธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาแน่นอน”

พลิกโฉมสาขา

ทิศทางของดีแคทลอนในปี 2568 ที่จะถึงนี้ จะเน้นเปิดสาขาที่เข้าใกล้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเร่งสปีดการขยายสาขาเข้าไปในแหล่งชุมชน ด้วยโมเดลใหม่ที่ปรับขนาดพื้นที่ งานดีไซน์และบรรยากาศ รวมถึงไลน์อัพสินค้า ให้เหมาะกับแนวทางใหม่นี้ พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ ๆ เข้ามา ทั้งสินค้ากีฬาที่จะเน้นนวัตกรรม และสินค้าที่นักกีฬามืออาชีพใช้คว้ารางวัลในงานแข่งขัน รวมถึงจะมีสินค้าไลฟ์สไตล์ที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายมากขึ้น โดยหลายรายการจะเป็นสินค้าที่ไม่เคยมีในไทยมาก่อน

ขณะเดียวกันจะเดินหน้าสื่อสารสร้างการรับรู้ ย้ำโพซิชั่นที่ไม่เพียงมีสินค้ากีฬาหลากหลายกว่า 60 ประเภทกีฬา แต่ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาแต่ละประเภทอีกด้วย

ในส่วนของรายละเอียดการขยายสาขานั้น ปี 2568 จะปักธงสาขาใหม่จำนวนมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงปี 2567 ที่ขยายเพิ่ม 4 สาขาด้วย เน้นทำเลที่ผู้บริโภคใช้ชีวิตหรือเล่นกีฬา อาทิ ศูนย์การค้า, ชุมชน, สนามกีฬา ฯลฯ จากเดิมที่เน้นพื้นที่หัวมุมเมืองอย่างบางนา, พระราม 2, บางใหญ่ และรังสิต ตามแนวทางที่เน้นให้ผู้บริโภคมาใช้บริการได้ง่ายขึ้น

ที่สำคัญด้วยคอนเซ็ปต์หรือภาพลักษณ์ใหม่สำหรับสโตร์ที่จะเปิดในปีหน้า ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่นำมาใช้ในไทยเป็นประเทศแรก ๆ ของโลก จะมีความแตกต่างจากสาขาที่เคยเปิดโดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในศูนย์การค้าที่เคยมีมา ทั้งด้านขนาดที่ปรับเป็น 500 ตร.ม. พร้อมดีไซน์ร้านแบบใหม่สไตล์โมเดิร์น และการจัดวางสินค้าที่เน้นประสบการณ์ช็อปปิ้ง ซึ่งผู้บริโภคจะสามารถหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ในลักษณะเดียวกับสาขาบางนา

โดยประเดิมสาขาแรกที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นปี 2568 ตามด้วยสาขาใหม่ที่พัทยา บริเวณแยกเทพประสิทธิ์ ถนนสุขุมวิท ที่มีพื้นที่ขนาด 3,078 ตารางเมตร บวกกับเพลย์กราวนด์หรือพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาอีก 535 ตารางเมตร ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ด้วยเช่นกัน

ยกทัพสินค้านวัตกรรม-ไลฟ์สไตล์

ด้านไลน์อัพสินค้าจะเพิ่มสินค้านวัตกรรม เช่น รองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอน หรือชุดปั่นจักรยาน และจักรยานจากแบรนด์ VAN RYSEL ที่ทีม DECATHLON AG2R La Mondiale ใช้แข่งขันและคว้าชัยชนะในหลายรายการ, เต็นท์แบบกาง-เก็บใน 2 วินาทีรุ่นใหม่, สินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่น, สินค้าแนวไลฟ์สไตล์ที่ใช้ได้ทุกวัน รวมถึงสินค้าสำหรับกีฬาประเภทใหม่ ๆ อย่างปาเดลและพิกเคิลบอลด้วย

พร้อมคงนโยบายสินค้าราคาให้จับต้องง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แม้สถานการณ์ต้นทุนการผลิตสินค้าจะมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยจะตรึงราคาสินค้าต่าง ๆ เอาไว้ให้นานที่สุดควบคู่กับการหาช่องทางปรับราคาลง อาศัยขนาดของธุรกิจที่มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ช่วยให้การผลิตสินค้ามีอีโคโนมีออฟสเกล หรือมีต้นทุนต่อหน่วยที่ดี สะท้อนจากในปี 2567 นี้ สามารถลดราคาเป้สะพายไซซ์เล็กจาก 120 บาท เป็น 99 บาทได้สำเร็จ รวมถึงสินค้าอีกหลายประเภทที่มีการปรับราคาลง เพื่อให้เข้าถึงง่ายและคุ้มค่าสำหรับลูกค้าชาวไทย

ปั้นอินฟลูฯ อินเฮาส์

ส่วนการทำตลาดจะเน้นเชิงรุกมากขึ้น มีไฮไลต์เป็นแคมเปญ Super Star Teammates โครงการปั้นอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรภายใน โดยต่อยอดจุดแข็งของนโยบายรับพนักงานขายที่มีแพสชั่น และความเชี่ยวชาญในการเล่นกีฬาต่าง ๆให้มาเป็นอินฟลูเอนเซอร์แนะนำสินค้าผ่านสื่อและโซเชียลมีเดีย รวมถึงดีแคทลอนมีการส่งพนักงานเข้าร่วมการแข่งขันกีฬารายการต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ เช่นเดียวกับการใช้สื่อแมสมีเดียมากขึ้น

ทั้งนี้เชื่อว่าการเปิดสโตร์สาขาที่ใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น สาขาโมเดลใหม่และการเพิ่มไลน์อัพสินค้านวัตกรรม-ไลฟ์สไตล์ จะช่วยสร้างการเติบโตต่อเนื่องได้แน่นอน

30/12/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 30 ธันวาคม 2567 )

ช่องยูทูปของ iCONS