ไอ.ซี.ซี.เชื่อตลาดแฟชั่นมือสองมาแรง หลังกระแสรักษ์โลกปลุกดีมานด์นักช็อปรุ่นใหม่ ประกาศร่วมทุนบริษัท เวิลด์ จำกัด ยก แร็กแท็ก เชนร้านสินค้าแฟชั่นหรูมือสองสัญชาติญี่ปุ่น ปักธงสาขาไทย พร้อมชูจุดเด่นสินค้าแฟชั่นหรูมือสองราคาจับต้องได้ ก่อนเสริมแกร่งด้วยโนว์ฮาวค้าปลีกจาก ไอ.ซี.ซี. มั่นใจขยายฐานนักช็อปรุ่นใหม่ในวงการแฟชั่นได้แน่นอน
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท บีเอสซี โซ อิน จำกัด กล่าวว่า ตลาดสินค้ามือสองเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่น และเป็นกระแสที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภูมิทัศน์การค้าปลีกทั่วโลกอีกด้วย
เนื่องจากผู้บริโภครุ่นใหม่สนใจและพร้อมจับจ่ายกับสินค้าที่ตอบโจทย์ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับกำลังซื้อของตนเอง และความเป็นปัจเจก-แตกต่างจากคนอื่น ๆ ไปพร้อมกันด้วย ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าแฟชั่นมือสองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 3 ข้อ
เพื่อชิงสร้างการเติบโตจากกระแสนี้ บริษัทจึงผนึกกำลังกับบริษัท เวิลด์ จำกัด ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าสัญชาติญี่ปุ่น และบริษัทแม่ของ Tin Pan Alley Co., Ltd. ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ แร็กแท็ก (RAGTAG) ร้านสินค้าแฟชั่นหรูมือสอง ตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อนำ แร็กแท็ก (RAGTAG) ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นหรูมือสอง ที่มีจุดเด่นด้านแนวทางการคัดเลือกสินค้า และไลน์อัพสินค้าแฟชั่นหรูมือสองราคาจับต้องได้ เข้ามาดำเนินการในประเทศไทย
พร้อมกับเสริมแกร่งด้วยเครือข่ายคู่ค้า-พันธมิตร และประสบการณ์การทำธุรกิจการค้าปลีกในประเทศไทยมาอย่างยาวนานของ ไอ.ซี.ซี.
นายธรรมรัตน์ทิ้งท้ายว่า ธุรกิจจากความร่วมมือนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดสินค้ามือสองในประเทศไทย โดยเฉพาะนักช็อปรุ่นใหม่ที่สนใจทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และสไตล์ ด้วยสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ในราคาจับต้องได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แร็กแท็กเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญของตลาดสินค้าแฟชั่นหรูมือสองในญี่ปุ่น โดยตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า ก่อตั้งเมื่อปี 2528 ที่ย่านฮาราจูกุ กรุงโตเกียวปัจจุบันมีสาขา 23 แห่งในญี่ปุ่น และช่องทางอีคอมเมิร์ซ โดยยังไม่มีสาขาในต่างประเทศ มีจุดเด่นด้านไลน์อัพสินค้าแฟชั่นมือสองจากทั้งแคชวลแบรนด์ ไปจนถึงแบรนด์ไฮเอนด์ ที่ตั้งราคาจำหน่ายถูกกว่าสินค้ามือหนึ่ง 50-80%
โดยมียอดการรับซื้อสินค้าแฟชั่นเข้าสต๊อกเฉลี่ย 700,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งจะถูกนำเข้ากระบวนการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันสินค้าปลอมแปลง ก่อนจะนำไปซ่อมแซมและนำออกวางจำหน่าย โดยช่องทางออนไลน์ของบริษัทมีสต๊อกสินค้าใหม่ 1,500 ชิ้นต่อวัน และมีสต๊อกสินค้ารวมมากกว่า 160,000 ชิ้น
รวมถึงมีแบรนด์ย่อย คือ rt (อาร์ที) ที่จะเน้นสินค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์ และ usebowl reuse market ยูสโบว รียูส มาร์เก็ต ร้านแฟชั่นมือสองสไตล์ซูเปอร์มาร์เก็ต
27/12/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 27 ธันวาคม 2567 )