info@icons.co.th 02 810 8892-6 216.73.216.41

เปิดแผน ‘โรงไฟฟ้า SMR’ GPSC เน้นปลอดภัย ตอบโจทย์ Net Zero

Power Plant News / ข่าวหมวดโรงไฟฟ้า

สถานการณ์ความต้องการพลังงานสะอาดเพื่อรองรับการลงทุนในยุคที่เน้นความยั่งยืน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อจำกัดของพลังงานหมุนเวียน ที่ขาดเสถียรภาพ และไม่สามารถผลิตไอน้ำได้ เป็นเหตุผลสำคัญทำให้ความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ Small Modular Reactor (SMR) ได้รับความสนใจ

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในฐานะแกนหลักนโยบาย Decarbonization Power ของกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถึงแผนการศึกษา SMR ในยุคที่ความมั่นคงทางพลังงานและเป้าหมายลดคาร์บอนกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศ

SMR เจน 4 ใช้เวลาศึกษา 4 ปี

เรามองจากกรอบความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Energy Trilemma) คือ 1) ความมั่นคงทางพลังงาน (Energy Security) คือ การมีระบบไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและมั่นคง 2) ความสามารถในการจ่าย (Affordability) ต้องตอบโจทย์และเอื้อต่อประชาชน ราคาค่าไฟที่ประชาชนรับได้ และ 3) ความยั่งยืนทางพลังงาน (Sustainability) ซึ่งพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่ เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ยังไม่ตอบโจทย์และเป็นพลังงานที่ยังไม่มีเสถียรภาพมากนัก ดังนั้น เราต้องใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก หรือ SMR (Small Modular Reactor) เพื่อที่จะนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero

SMR ที่กำลังศึกษาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 มีลักษณะเป็นโรงไฟฟ้าผลิตพลังงานแบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก ให้พลังงานความร้อนแบบ Thermal เนื่องจากในอุตสาหกรรมหลักจะใช้ไอน้ำในกระบวนการผลิต หลักการง่าย ๆ คือ ต้มไอน้ำก่อน ถ้าเราใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เราจะได้แต่ไฟ ไม่เกิดความสมดุลในอุตสาหกรรม

หลักการทำงานของ SMR จะผลิตไฟฟ้าผ่านกระบวนการพลังงานความร้อนร่วม (Combined Heat and Power-CHP) หรือที่เรียกว่า โคเจเนอเรชั่น (Cogeneration) เชื้อเพลิงจะถูกเผาไหม้เพื่อขับเคลื่อนกังหันก๊าซ (Gas Turbine) ซึ่งจะหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะเดียวกันความร้อนไม่ได้ถูกใช้ไป ซึ่งเมื่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้แก๊สเทอร์ไบน์ มีไอเสียซึ่งมีอุณหภูมิสูง (ตัวไอเสียมีความร้อนสูงเกิน 500 C) แทนที่จะปล่อยทิ้งไป จะนำไอเสียนี้ไปใช้ต้มน้ำ เพื่อผลิตไอน้ำอีกชุด เพื่อใช้สำหรับกระบวนการทางอุตสาหกรรมหรือสำหรับระบบปรับอากาศ

ส่วนการติดตั้งก็มีความสะดวกและรวดเร็ว เพราะมีลักษณะเป็นโมดูลที่ผลิตและประกอบเบ็ดเสร็จจากโรงงานผู้ผลิต สามารถขนย้ายได้ ระบบความปลอดภัยที่มีรัศมีการกระจายของกัมมันตรังสีน้อยกว่า 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ ราคาสามารถจับต้องได้ ทำให้ต้นทุนราคาไฟฟ้าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 บาทต่อหน่วย

GPSC จะร่วมมือกับบริษัท Seaborg Technologies ApS ผู้พัฒนาเทคโนโลยี SMR ศึกษาความเป็นไปได้ครอบคลุมด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม กฎหมาย ปัจจัยความเสี่ยง การตลาด และการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งและขนาดของหน่วยผลิตไฟฟ้าประมาณ 200-800 เมกะวัตต์ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งสององค์กรในการดำเนินโครงการหน่วยผลิตไฟฟ้า SMR ในประเทศไทย โดยจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 4 ปี (ระหว่างปี พ.ศ. 2567-2570)

รัฐต้องพร้อม-ปชช.ต้องยอมรับ

ในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (แผน PDP : Power Development Plan) ได้บรรจุ SMR ไว้ในช่วงปลายแผน PDP ภายในปี 2580 จำนวน 3 เครื่อง กำลังผลิตเครื่องละประมาณ 100 เมกะวัตต์ รวม 300 เมกะวัตต์ แต่กฎหมายด้านนิวเคลียร์ของไทยยังอิงกับเทคโนโลยีเก่า เช่น ระบุรัศมีปล่อยรังสี 10 กม. ซึ่งไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยี SMR รุ่นใหม่ นิวเคลียร์เจน 3 และเจน 4 ที่ควบคุมได้ในระดับ 500 เมตร จึงต้องมีการปรับแก้ให้ทันสมัย

ยกตัวอย่าง เมื่อช่วงเมษายนที่ผ่านมา คณะผู้บริหารไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้า SMR รูปแบบเทคโนโลยี HTGR (High Temperature Gas-cooled Reactor) ที่มณฑลซานตง ประเทศจีน มีกำลังการผลิตติดตั้งขนาด 200 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้ก๊าซฮีเลียมเป็นสารระบายความร้อน และมีการใช้เชื้อเพลิงแบบเทคโนโลยี Pebble Bed ป้องกันการหลอมละลายของเชื้อเพลิง เป็นโรงไฟฟ้า SMR Generation IV แห่งแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

“ผมว่าความท้าทายจริง ๆ คือ เรื่องความพร้อมของประเทศ แน่นอนว่าเรื่องใหญ่สุด คือการทำความเข้าใจและการยอมรับของประชาชน เราต้องทำความเข้าใจว่า SMR หรือนิวเคลียร์ บริษัทต่าง ๆ แข่งกันที่ความปลอดภัย ไม่ได้แข่งกันเรื่องราคา”

GPSC พร้อมเป็นเอกชนรายแรก

ถ้าพูดถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ คนเข้าใจว่าเวลาเกิดเหตุสารกัมมันตรังสีมักจะอันตรายมาก นั่นเพราะเป็นนิวเคลียร์ในเจนเริ่มต้น แต่ตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาใช้ยูเรเนียม เช่น U-235 เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตความร้อน เมื่อ U-235 ถูกนิวตรอน (ซึ่งมักเป็นนิวตรอนความร้อน หรือ Slow or Thermal Neutron) วิ่งเข้าชน จะเกิดปฏิกิริยาแตกตัว (Fission) และปล่อยความร้อนออกมา ซึ่งความร้อนที่ได้จะนำไปใช้ต้มน้ำ ผลิตไอน้ำและปั่นเทอร์ไบน์เพื่อผลิตไฟฟ้า

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยุคปัจจุบัน หรือเจน 3 และเจน 4 จะมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่เราต้องออกแบบโมเดลให้ชุมชนและระบบนิเวศรอบ ๆ ได้รับประโยชน์จากโรงไฟฟ้า เชื่อว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สามารถวางแผนและออกแบบเพื่อรองรับในส่วนนี้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมายรองรับ และควรจะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำโดยลำพังจะสำเร็จได้ยาก

อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่ง GPSC ศึกษารายละเอียด เน้นด้านความปลอดภัยสูงสุด และรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ SMR ซึ่งมั่นใจได้ว่า GPSC จะเป็นเอกชนรายแรกที่ทำโครงการนี้ หลังจากที่ กฟผ. เป็นผู้นำร่องในไทย

22/6/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 22 มิถุนายน 2568 )

โฆษณาแบนเนอร์