ไอคอนสยาม ทุ่มพันล้านรีโนเวต รับค้าปลีกโต เพิ่มร้านอาหาร-แบรนด์หรูจากต่างประเทศ 50-60 ร้าน รับดีมานด์ลูกค้าไทย-เทศ พร้อมทุ่มอีเวนต์ใหญ่ฉลอง 5 ปี ชูลุ้นโชค 2.45 หมื่นรางวัล กระตุ้นจับจ่ายโค้งท้าย
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ยังมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของวงการค้าปลีกไทยทั้งในช่วงโค้งท้ายปี 2566 นี้ และในปี 2567 ที่จะถึง สะท้อนจากการเปิดหรือรีโนเวตห้าง-ศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่องของหลายเครือในช่วงที่ผ่านมา ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐบาล
รวมถึงจำนวนลูกค้าและรายได้จากค่าเช่าของไอคอนสยามที่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังเติบโตในระดับ 70% และ 25% ตามลำดับ ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ 1 แสนคนในวันธรรมดา และ 1.2 -1.4 แสนคนในช่วงสุดสัปดาห์ ในจำนวนนี้ 40% เป็นกลุ่มสมาชิก VIZ Card ซึ่งมีการใช้จ่ายประมาณ 3 หมื่น-4 หมื่นบาทต่อใบเสร็จ
ปัจจุบันแม้สัดส่วนลูกค้าจะเป็นชาวไทย 60% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40% ประกอบด้วยจีน, มาเลเซีย, รัสเซีย, ลาว และเกาหลีใต้ แต่คาดว่าช่วงโค้งท้ายสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอีก จนมีสัดส่วนเป็น 50% และนอกจากดีมานด์ของผู้บริโภคในไทยแล้ว ยังเห็นดีมานด์จากกลุ่มอื่น ๆ เช่น จีนได้จากการที่เมืองต่าง ๆ ในจีนพยายามติดต่อให้ไอคอนสยามเข้าไปเปิดสาขาในแดนมังกร เช่นเดียวกับที่อินเตอร์แบรนด์หลายรายแสดงความสนใจเข้ามาเปิดสาขาในไอคอนสยาม
ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงตัดสินใจใช้ช่วงปี 2567 ซึ่งเป็นจังหวะครบสัญญาของผู้เช่าในศูนย์ ทุ่มงบฯ กว่า 1.2 พันล้านบาท รีโนเวตพื้นที่บางส่วนของบริเวณร้านค้าและพื้นที่ทั้งหมด 5 พัน ตร.ม. ของอดีตพิพิธภัณฑ์ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม บริเวณชั้น 8 ใหม่ ให้สามารถรองรับดีมานด์เหล่านี้ได้ดีขึ้น
โดยในพื้นที่ร้านค้าจะปรับให้สามารถรองรับจำนวนผู้เช่าได้มากขึ้นอีก 50-60 ราย เน้น 2 กลุ่มคือ ร้านอาหารจากต่างประเทศที่ไม่เคยมีสาขาในไทยมาก่อน และแบรนด์ลักเซอรี่บางกลุ่มที่ปัจจุบันยังไม่มีในศูนย์ ซึ่งคาดว่าส่วนนี้จะใช้งบฯ 1 พันล้านบาท และเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2567 โดยจะเสร็จสมบูรณ์ใน 1 ปี
ส่วนพื้นที่ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า และใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ปรับรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ให้เป็นรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดผู้เข้าชม ตามแนวทางที่จะสร้างจุดเด่นด้านประสบการณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากการช็อปปิ้ง
สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล
ตอนนี้ปริมาณร้านอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าแล้ว โดยร้านอาหารมีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น ขณะที่แฟชั่นมีสัดส่วน 50% และกลุ่มสุขภาพมีสัดส่วน 30% จึงต้องเติมกลุ่มร้านอาหารเข้ามา เช่นเดียวกับแบรนด์หรูที่จะเข้ามาเปิดแฟลกชิปสโตร์เพิ่ม นอกจากนี้ อาจปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ให้สอดคล้องกับต้นทุนต่าง ๆ ด้วย
ผู้บริหารไอคอนสยามกล่าวต่อไปว่าในปี 2567 ที่จะถึงบริษัทยังเน้นยุทธศาสตร์ 3 ด้านเช่นเดียวกับที่ผ่านมาคือ สร้างประสบการณ์ที่นอกเหนือจากการช็อปปิ้ง สร้างอีเวนต์ระดับโลก และยกระดับเทศกาลของไทยไปสู่ระดับโลก โดยจะระดมจัดอีเวนต์ใหญ่ระดับโลกอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน หรือไม่น้อยกว่า 12 ครั้งต่อปี ประเดิมด้วยงานฉลอง ICONSIAM-The 5th Anniversary of The ICON Unrivaled ที่ลากยาว 5 เดือนตั้งแต่ตุลาคม66 ไปจนถึงกุมภาพันธ์67
ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงอีเวนต์ฉลองครบรอบ 5 ปี ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่จะมีทั้งอีเวนต์มีตแอนด์กรี๊ตดาราดังอย่าง อีจุนโฮ พระเอกซีรีส์ King the Land เมมเบอร์บอยแบนด์วง ทูพีเอ็ม (2PM) และ มาร์ก ต้วน (Mark Tuan) หนึ่งในอดีตสมาชิกวง GOT7 และช่วงวันที่ 10-11 พฤศจิกายนจะมีคอนเสิร์ตจากศิลปินชาวไทย อาทิ วง ATLAS และ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร กิจกรรมนี้จะจัดตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00-22.00 น. วันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2566 บริเวณริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมชมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
รวมถึงโปรโมชั่นตั้งแต่ 9-30 พฤศจิกายน อาทิ การลุ้นรางวัล 24,500 รางวัล เช่น รถยนต์ TESLA Model 3 มูลค่า 1.59 ล้านบาท, รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า พร้อมหมวกกันน็อก รวมมูลค่า 200,000 บาท, จี้เพชรจากแบรนด์ Jubilee และอื่น ๆ
และเมื่อช็อปครบตามยอดซื้อที่กำหนด สามารถเลือกแลกรับของรางวัล เช่น ICONSIAM Travel Bag Set, THANN set หรือ Siam Gift Card และระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย. เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยครบ 300,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิปจะได้รับ 9,000 Viz Coin ซึ่งมีมูลค่า 1 Viz Coin เท่ากับ 1 บาท อีกด้วย
ก่อนจะตามด้วยงานเคานต์ดาวน์ Amazing Thailand Countdown 2024 ช่วงวันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 ซึ่งปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่สุดในรอบ 5 ปี ที่เปิดดำเนินการมา โดยจะมีพลุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากผู้จัดชาวญี่ปุ่นที่รับชมได้ตลอดความยาว 1,400 เมตร และคอนเสิร์ตจากทัพศิลปินดังของไทย ทั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถสร้างแม่เหล็กดึงดูดให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลก พร้อมย้ำโพซิชั่น Global Destination ของไอคอนสยามได้แน่นอน
9/11/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 9 พฤศจิกายน 2566 )