info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.222.179.161

“ออนิกซ์” ขยับรับท่องเที่ยวฟื้น จ่อเปิดโรงแรมใหม่อีก 9 แห่ง ภายในปี’68

Hotel News / ข่าวหมวดโรงแรม

“ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” ชี้ท่องเที่ยวฟื้นตัว ไตรมาสแรกโต 29% จีนกลับมาเป็นตลาดอันดับ 1 คาดปีนี้มีรายได้รวมกว่า 9.4 พันล้านบาท เดินหน้าเปิด “อมารี-โอโซ่-ชามา” ทั้งในและต่างประเทศอีก 9 แห่งภายในปี 2568 ตั้งเป้ามีโรงแรมภายใต้การบริหารไม่ต่ำกว่า 70 แห่ง ภายในอีก 4 ปีข้างหน้า ย้ำภาพบริษัทบริหารจัดการโรงแรมขนาดกลางที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ผู้ลงทุนและบริหารโรงแรมแบรนด์ อมารี (Amari) โอโซ่ (OZO) ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) เปิดเผยว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 5 ทศวรรษ

และความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าในการดำเนินธุรกิจร่วมกันภายใต้สัญญาระยะยาว

โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมากขึ้นและเป็นตลาดที่ทำรายได้อันดับ 1 รองลงมาคือ ตลาดคนไทย และรัสเซีย ส่วนตลาดอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดีย ก็มีการเติบโตเช่นกันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับแผนการขยายโรงแรมใหม่เพิ่มเติมนั้น นายยุทธชัยกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย จีน รวมไปถึงฮ่องกง บังกลาเทศ และ สปป.ลาว และกำลังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยนับจากปีนี้จนถึงปี 2568 มีโครงการที่เตรียมเปิดให้บริการกว่า 9 แห่ง ประกอบด้วย มาเลเซีย 3 แห่ง จีนและฮ่องกง 2 แห่ง ไทย 2 แห่ง ลาว 1 แห่ง และศรีลังกา 1 แห่ง เป็นต้น และตั้งเป้ามีโรงแรมและที่พักภายใต้การบริหารมากกว่า 70 แห่งภายในปี 2571 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า

โดยในมาเลเซีย ได้แก่ โอโซ่ เมดินิ, ชามา เมดินิ และชามา ซัวซานา ยะโฮร์ บาห์รู ซึ่งจะทำให้มีโรงแรมในมาเลเซียรวม 7 แห่ง และเป็นประเทศแรกนอกจากไทยที่มีแบรนด์ครบทั้งอมารี โอโซ่ และ ชามา นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดโรงแรมแบรนด์อมารีอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมอมารี โคลัมโบ ศรีลังกา จำนวน 167 ห้อง ในไตรมาสที่ 4/2567

โรงแรมอมารี เวียงจันทน์ สปป.ลาว โรงแรมแห่งที่ 2 ของแบรนด์อมารีในลาวต่อจากโรงแรมอมารี วังเวียง จำนวน 248 ห้อง ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4/2567 และโรงแรมอมารี เดอะไทด์ บางแสน (ชลบุรี) จำนวน 154 ห้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568

รวมถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโรงแรมอมารี กรุงเทพฯ ซึ่งได้ปรับปรุงใหม่และปรับชื่อจาก “อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ” ประกอบด้วยห้องพรีเมียร์และห้องสวีตใหม่ทั้งหมด เพิ่มร้านอาหารใหม่ ๆ และสปา “ไหม สปา” (maai spa) หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวสาขาแรกที่โรงแรมอมารี พัทยา เมื่อปี 2566

นอกเหนือจากแบรนด์อมารีแล้ว แบรนด์ที่มีความโดดเด่นอย่างมากอีกแบรนด์คือ “ชามา” (Shama) ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 2,500 ยูนิต จากทั้งหมด 20 แห่ง โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีการเติบโตถึง 200% ภายใน 5 ปี ขณะที่ในฮ่องกงก็ถือเป็นผู้นำด้านบริการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ระดับนานาชาติอันดับ 1 ในฮ่องกงด้วยจำนวนโรงแรม 7 แห่ง

“เรายังดำเนินการขยายแบรนด์ ชามา เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ชามา ซัวซานามาเลเซีย, ชามา ฮับ เมโทร เซาท์ ฮ่องกง, ชามา ฮับ เฉียนถัง หางโจว ประเทศจีน” นายยุทธชัยกล่าวและว่าล่าสุดได้ลงนามสัญญาเข้ารับบริหารชามา ระยอง (Shama Rayong) จำนวน 150 ห้อง โดยวางแผนเปิดให้บริการปี 2569

ส่วนแบรนด์โอโซ่ (OZO) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ธงนั้น ล่าสุดเตรียมเปิดตัว OZO Medini มาเลเซียในไตรมาส 2/2567 นี้ ซึ่งเป็นโรงแรมโอโซ่แห่งที่ 5 จากปัจจุบัน 4 แห่ง ประกอบด้วย โอโซ่ พัทยา, โอโซ่ ภูเก็ต, โอโซ่ สมุย, โอโซ่ จอร์จทาวน์ ปีนัง

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ามีรายได้รวมในปี 2567 ที่ 9,463 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 23% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยแบรนด์อมารีและโอโซ่ เป็นแบรนด์สำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ ในขณะที่แบรนด์ชามา (Shama) ก็มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

โดยจะยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็น The Best Medium-Sized Hospitality Management Company in Southeast Asia บริษัทบริหารจัดการโรงแรมและการบริการขนาดกลางที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแบรนด์ที่พักครอบคลุมทุกความต้องการในการพักอาศัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในหลายประเทศ

19/5/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 19 พฤษภาคม 2567 )

ช่องยูทูปของ iCONS