info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.144.48.135

FPT Next 2025 โรดแมปประสบการณ์ลูกค้า ความรู้สึกดีครั้งที่ร้อย ยังเหมือนครั้งแรกเสมอ

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย หรือ “FPT-Frasers Property Thailand” ก้าวอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในการรวม 3 แพลตฟอร์มเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วยอสังหาฯ เพื่อ “ที่อยู่อาศัย-การพาณิชย์-อุตสาหกรรม”

จังหวะก้าวเดินบนแคตวอล์กธุรกิจนับจากนี้ ถูกถ่ายทอดภายใต้โรดแมป “FPT Next 2025” ยกระดับสู่การเป็น Real Estate as a Service Brand ภายใน 3 ปีหน้า

แผน 3 ปี FPT Next 2025

อัพเดตอาณาจักรธุรกิจอสังหาฯของกลุ่มเฟรเซอร์ส (FPL) มีมูลค่าทรัพย์สิน 1 ล้านล้านบาท กระจายการลงทุนใน 22 ประเทศ จำนวน 70 เมืองใหญ่ในทุกมุมโลก

สำหรับประเทศไทย “ธนพล ศิริธนชัย” Country CEO บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทยภายใต้โมเดลธุรกิจ one platform เปิดพอร์ตการลงทุน เริ่มจาก “อสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัย” หรือเฟรเซอร์ส โฮม

ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างพัฒนาและเปิดขาย (active projects) 73 โครงการ มูลค่ารวม 95,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 17 โครงการ, บ้านแฝด 12 โครงการ และทาวน์โฮม 30 โครงการ แข่งขันบนทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดรวม 14 จังหวัด ราคาครอบคลุมทุกตลาดทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่ 2-120 ล้านบาทขึ้นไป

ถัดมา “อสังหาฯเพื่ออุตสาหกรรม” บริหารจัดการพื้่นที่ 3.26 ล้านตารางเมตร มีอัตราการเช่าใช้พื้นที่ 84% แบ่งเป็น โรงงาน 456 อาคาร พื้นที่รวม 1.17 ล้านตารางเมตร และคลังสินค้า 504 อาคาร พื้นที่รวม 2.09 ล้านตารางเมตร

และ “อสังหาฯเพื่อการพาณิชย์” บริหารจัดการพื้นที่สำนักงานให้เช่าและพื้นที่รีเทล 2.4 แสนตารางเมตร กับโรงแรมอีก 1,100 ห้องพัก

ล่าสุด จัดทำโรดแมป FPT Next 2025 ประกาศเป้าหมายสร้างการเติบโต พร้อมกับมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ด้วยการส่งมอบการบริการที่เป็นเลิศ (service excellence) ในทุกมิติ เพราะต้องการสร้างความแตกต่างมากกว่าการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย

โดย FPT Next 2025 มุ่งตอบโจทย์เทรนด์ระดับโลกและความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

โฟกัสการสร้างคุณภาพรายได้

“ปี 2021 FPT มีการรวมธุรกิจระหว่างเฟรเซอร์สฯ ไทคอน โกลเด้นแลนด์ ดังนั้น 2 ปีแรกจึงเน้นกลยุทธ์การสื่อสารกับคนในองค์กรให้มั่นคงก่อน สำหรับ 3 ปีหน้าเราต้องเริ่มสื่อสารกับคนข้างนอกมากขึ้น ผ่านโรดแมปที่เราจะเป็น Real Estate as a Service Brand ซึ่งหมายถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ โดยต่อยอดด้านนวัตกรรมการบริการ เพิ่มประสิทธิภาพบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนที่เข้ามาใช้สถานที่ของ FPT”

ทั้งนี้ โมเดลธุรกิจ one platform ของบริษัทสร้างผลประกอบการปี 2022 มีรายได้รวม 16,346 ล้านบาท แผนดำเนินการปี 2023 วางเป้าตัวเลขรายได้เติบโตขึ้นเป็น 17,925 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากที่อยู่อาศัย 13,085 ล้านบาท, อุตสาหกรรม 3,405 ล้านบาท และคอมเมอร์เชียล 1,435 ล้านบาท

แผน 5 ปีที่มองอนาคตไปถึงปี 2027 ตั้งเป้ามีอัตราเติบโตอย่างมั่นคงเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งหมายถึงในปี 2027 คาดว่าจะมีรายได้รวม 30,000 ล้านบาท

“แผน 5 ปีเป็นภาพระยะยาว เราไม่ได้เน้นที่ยอดขายจะต้องโตเป็น 4-5 หมื่นล้านบาท เพราะหมายถึงเงินทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เราประกาศเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% เพราะเราเชื่อว่าเราจะบาลานซ์พอร์ตโฟลิโอให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะการตั้งเป้ารายได้สิ่งสำคัญคือคุณภาพของรายได้นั้นจะต้องเป็นไปอย่างยั่งยืนด้วย”

เติบโตยั่งยืนด้วยแกนหลัก 3P

“ธนพล” กล่าวถึงโรดแมป FPT Next 2025 ว่า การเตรียมตัว 3 ปีหน้าทำผ่าน 3 มิติหลัก คือ “people-planet-purpose”

โดย “people” ดูแลพนักงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจ ให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความสามารถและขยายศักยภาพ ควบคู่กับการสนับสนุนให้ทุกคนในองค์กรมีเส้นทางการเติบโตในอาชีพอย่างชัดเจน ดูแลสวัสดิการที่เท่าเทียมและสอดรับกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Employer of Choice บริษัทที่คนอยากร่วมงานด้วย

“planet” ดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นและคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล (ESG-environment, social and governance) สร้างความยั่งยืนให้แก่บริษัทในทุกด้าน ปัจจุบัน FPT เป็นบริษัทอสังหาฯของไทยรายแรกที่ได้รับจัดอันดับมาตรฐานในระดับ A ด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนของบริษัท ในหมวดหมู่ Southeast Asia Diversified Business ตามมาตรฐานของ GRESB (Global Real Estate Sustainability Benchmark) ซึ่งเป็นดัชนีด้านความยั่งยืนของภาคอสังหาริมทรัพย์

พร้อมกันนี้ FPT ประกาศเป้าหมายเดินหน้าสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 6 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 6 แสนต้นภายในปี 2025 เพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050 ต่อไป

และ “purpose” เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ให้เป็นที่จดจำในด้านการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

อัพเดตข้อมูล ณ 30 กันยายน 2565 FPT มีมูลค่าสินทรัพย์ 98,967 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 2025 มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาท

พร้อมตั้งเป้าหมายในการเป็นแบรนด์ Top 5 ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย ทั้งในกลุ่มที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรมในปี 2025

โรงงาน-คลังสินค้าอาคารเขียว

ผู้บริหารอีกราย “โสภณ ราชรักษา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเตรียล หรือ FPIT กล่าวถึงเทรนด์การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในส่วนของอาคารอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงถูกขับเคลื่อนจากความต้องการของลูกค้าเป็นด้านหลัก

โดยพฤติกรรมนักลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ ในการเลือกพื้นที่หรืออาคารจะมีคำถามแรกนำหน้าเสมอคือ “โรงงาน-คลังสินค้าเป็นอาคารเขียวหรือไม่”

“FPIT ในฐานะผู้นำด้านอาคารอุตสาหกรรมที่มีเรื่องของ ESG มากที่สุดในเมืองไทย ซึ่ง ESG เราไม่ได้พูดถึงความสะอาดอย่างเดียว แต่เราพูดถึงคนทำงานในนั้นว่าจะมีความสุขขนาดไหน เป็นการออกแบบเพื่อดูเรื่องของการระบายอากาศถ่ายเทจากมุมไหนไปมุมไหน การวางทิศของตัวอาคารก็เป็นเรื่องจำเป็นมาก การออกแบบอาคารให้เหมือนการทำงานที่ซีบีดี ลักษณะห้องน้ำในโรงงานอุตสาหกรรมพยายามลอกแบบมาจากโครงการมิกซ์ยูสในเมือง

ถ้าบริษัทสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดี ๆ เหล่านี้ได้ จะเป็นการสร้างความแตกต่างใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น”

กลยุทธ์การแข่งขันที่คู่แข่งต้องปาดเหงื่ออยู่ที่นโยบาย “อาคารสีเขียว” โดย FPIT พัฒนาอาคารรุ่นใหม่ทุกแห่งจะต้องติดฉลากอาคารเขียว ซึ่งมีฉลากมาตรฐานคือมาตรฐาน LEED

“journey ฝั่งอินดัสเตรียลที่เป็นอาคารสีเขียว นโยบายเราเริ่มค่อย ๆ พัฒนามาทุกอาคารรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น LEED Silver, LEED Gold ต้องบอกว่าอาคารอุตสาหกรรมในเมืองไทยที่จะได้ LEED Gold มีน้อยมาก ยังไม่มีใครได้ถึง Platinum วันนี้จึงตั้งเป้าเราจะเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่จะเป็น LEED Platinum ของอาคารอุตสาหกรรม”

Places for Good เพื่อลูกค้า

บทสรุปสุดท้าย “ธนพล” นำเสนอแบบชวนคุย-ช่วยคิดว่า ให้กลับมาดูที่คำว่า purpose เป็นการบอกว่าธุรกิจของเราทำไปเพื่ออะไร

โดย purpose ของ FPT คือ Inspiring Experience Creating Places for Good เราจะสร้างสรรค์พื้นที่ให้ประสบการณ์ที่ดีคงอยู่, การสร้างความประทับใจให้คนมาอยู่ในสถานที่หรือโครงการของบริษัท เพราะคำว่า for Good ไม่ได้หมายความว่า forever ซึ่งไม่มีอะไรหรือสิ่งใดที่จะอยู่ตลอดไป

ดังนั้น คำว่า for Good จึงมี 2 ความหมาย คือ 1.เป็นโครงการที่ดี คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความต้องการของลูกค้า 2.หมายถึงการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบโปรเจ็กต์ให้ออกมาดีในแง่คุณภาพ ในแง่ของ for Good สิ่งสำคัญจึงเน้นในเรื่องการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้กับลูกค้า

“เราลงรายละเอียดจนมั่นใจว่า ความรู้สึกดีครั้งที่ 100 ยังเหมือนครั้งแรกเสมอ”

23/2/2566  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 23 กุมภาพันธ์ 2566 )

ช่องยูทูปของ iCONS