ซีเจ มอร์ เร่งเครื่องเขย่าตลาดค้าปลีก ประกาศเดินหน้าขยายสาขา เพิ่มเป็น 250 สาขา/ปี เน้นเปิดไซซ์ใหญ่-เพิ่มบริการทางการเงิน โฟกัสพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคกลาง-อีสาน ตั้งเป้าทะลุ 3,000 สาขา รายได้แตะ 1 แสนล้าน ภายในปี 2573 จัดแคมเปญใหญ่ฉลองใหญ่ครบรอบ 18 ปี หนุนสิ้นปีโกยรายได้ 4 หมื่นล้าน เผยตลาดหุ้นผันผวนไม่เป็นใจ ชะลอแผน IPO ออกไปก่อน ขอรอจังหวะที่เหมาะสม
นายวีรธรรม เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเจ มอร์ จำกัด ผู้บริหารเชนร้านค้าปลีก ซีเจ เอ็กซ์เพรส และ ซีเจ มอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ตลาดค้าปลีกจะมีความท้าทายมากขึ้น เพราะนอกจากมีช่วงหน้าฝนที่เป็นโลว์ซีซั่นแล้ว ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญต่อภาคการเกษตรทำให้กำลังซื้อของเกษตรกรลดลง เช่นเดียวกับสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งทิศทางนโยบายเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน และการลงทุนของภาครัฐล่าช้า ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมลดลงด้วย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจจับจ่ายโดยให้น้ำหนักกับความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการค้าปลีกที่จะต้องรับมือ
ผุดโมเดล-บริการใหม่เสริมทัพ
นายวีรธรรมกล่าวว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทจากนี้ไป หลัก ๆ จะมุ่งตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าของผู้บริโภคให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยโมเดลร้านไซซ์ใหญ่ที่มีสินค้าหลากหลายขึ้น และบริการใหม่เข้ามาเสริม เช่น บริการทางการเงิน ฯลฯ รวมถึงการเร่งขยายสาขาเป็น 250 สาขาต่อปี แบ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต 150 สาขา และมอร์ 100 สาขาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี ทั้งในกรุงเทพฯ ภาคกลางและอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทมีโนว์ฮาวการทำธุรกิจอยู่แล้ว เพิ่มจากปี 2565 ที่ขยายสาขาใหม่ไปประมาณ 200 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้นประมาณ 1,100 สาขา
ร้านซีเจ มอร์ ไซซ์ใหญ่นี้จะมีพื้นที่ขายในโซนซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มจาก 300 ตร.ม. เป็น 500 ตร.ม. และเพิ่มสินค้าจาก 1.3-1.4 หมื่นเอสเคยู เป็น 1.5 หมื่นเอสเคยู เพื่อรองรับหมวดสินค้าใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น สินค้าสัตว์เลี้ยง หลังช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สินค้ากลุ่มนี้เติบโตกว่า 1,000% คาดว่าจะทดลองสาขาแรกในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล เช่นเดียวกับการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ ที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองหลายรูปแบบ เช่น ออนไลน์ บริการด้านการเงินรูปแบบหนึ่งซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยจะสามารถเห็นช่องทางจำหน่ายใหม่ได้ในช่วงปลายปีนี้
รวมทั้งการอาศัยทีมงานซึ่งปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี มากถึง 90% ของพนักงานทั้งหมด พร้อมแนวทางบริหารที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอไอเดียและทดลองจริงได้เต็มที่ ช่วยให้สามารถหาและเข้าใจอินไซต์ผู้บริโภครุ่นใหม่ รวมถึงพัฒนายุทธศาสตร์และแผนการตลาดใหม่ ๆ ได้หลากหลายและรวดเร็วขึ้น ช่วยสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขัน
เรายังคงเน้นแนวทางการเป็นมากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ไม่ต้องจำกัดตัวเองอยู่กับการขายสินค้า แต่สามารถเพิ่มธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเข้ามาได้ เพื่อทำให้ลูกค้ามาใช้บริการเราแล้วมีเงินและเวลาเยอะขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนากว่า 20 โปรเจ็กต์
สปีด 3 พันสาขาโกยแสนล้าน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีเจ มอร์ กล่าวว่า ส่วนแผนการขยายสาขา ช่วงครึ่งหลังนี้จะเน้นปักธงในย่านกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนปี 2567 จะรุกพื้นที่ภาคอีสาน เนื่องจากโกดังสินค้าขนาด 7 หมื่น ตร.ม. มูลค่า 1,000 ล้านบาท ที่จังหวัดขอนแก่น จะพร้อมดำเนินการ รวมถึงมีอินไซต์ผู้บริโภคจากทีมงานที่ส่งไปเก็บข้อมูลในสาขาที่เปิดไปเมื่อปี 2564 อย่าง การนิยมซื้อของเท่าที่จำเป็น ทำให้โปร 1 แถม 1 ไม่ได้รับการตอบรับเท่าภูมิภาคอื่น เป็นต้น พร้อมกันนี้จะทยอยรีโนเวตสาขาเดิมประมาณ 100 สาขาต่อปี คาดว่าจะใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี
หากสามารถขยายสาขาอย่างน้อย 250 สาขาต่อปีได้ต่อเนื่อง จะทำให้มีสาขาครบ 2,000 สาขาในปี 2569 และครบ 3,000 สาขาในปี 2573 จากจำนวน 1,100 สาขา ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 นี้ ขณะเดียวกันจะทำให้มีรายได้ 8 หมื่นล้านบาทในปี 2569 และเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาทในปี 2573 ตามลำดับ
ขณะนี้เรามีความพร้อมในการขยายสาขามากขึ้น เนื่องจากแบรนด์เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและมีฐานลูกค้าขาประจำมากขึ้น มีสินค้า-บริการครอบคลุม ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงสูงวัย สะท้อนจากที่ผ่านมาสาขาใหม่คืนทุนเร็วขึ้นจาก 5 ปี เป็นประมาณ 3 ปี ทั้งโมเดลมอร์และซูเปอร์มาร์เก็ต
ตลาดหุ้นผันผวนชะลอแผน IPO
ผู้บริหารซีเจ มอร์ กล่าวว่า สำหรับแผนการ IPO หรือนำธุรกิจเข้าระดมทุน 2-2.5 หมื่นล้านบาท ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเดิมจะดีเดย์ในไตรมาส 4 ปีนี้ แต่จากสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ยังมีความผันผวน บริษัทจึงตัดสินใจเลื่อนแผนออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการภายในต่าง ๆ เช่น ด้านบัญชี เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มกระบวนการต่อได้ทันทีที่สภาพตลาดเหมาะสม ระหว่างนี้จะจับตาสถานการณ์ในตลาดหลักทรัพย์ฯและเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน
ล่าสุด ซีเจ มอร์ ได้คิกออฟแคมเปญ เฉลิมฉลอง 18 ปี ซีเจ มอร์ ขอบคุณที่อยู่เคียงคู่กัน ที่เน้นการคืนกำไรและตอบแทนลูกค้าสมาชิกและชุมชน ด้วย 3 กิจกรรมไฮไลต์ 1.กิจกรรมคู่โชค มุ่งคืนกำไรให้ลูกค้าสมาชิกสบายการ์ด เพียงซื้อของในซีเจ มอร์ ก็สามารถมีโอกาสได้ ช็อปฟรีทั้งบิล 2.กิจกรรมคู่บุญ ร่วมแบ่งปันสิ่งดี ๆ คืนให้สังคม ด้วยการส่งต่อแต้มสมาชิกสบายการ์ดให้กับ 8 ชุมชนทั่วไทย ที่ซีเจมีสาขาตั้งอยู่ ผ่านการเลือกสรรจากคำแนะนำของลูกค้าสมาชิก และพนักงาน เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างแท้จริง โดยทุก 20 แต้ม เท่ากับ 1 บาท และการบริจาคทุก 1 บาท ซีเจ มอร์ สมทบ 1 บาท
และ 3.กิจกรรมคู่จิ้น ลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดี ได้ร่วมกิจกรรมทำบุญสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ฟินใจฟูกับคู่จิ้น กับ 2 คู่จิ้น สุดฮอต เฟิร์ส-ข้าวตัง และ ฟรีน-เบ็คกี้ ผ่านการสะสมสิทธิจากการซื้อของที่ซีเจ มอร์ เพียง 250 บาท/บิล และผ่าน Challenge สุดครีเอทีฟสำหรับชาว TikTok ที่สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566-15 กันยายน 2566 นอกจากนี้ยังจัดเต็มโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้ช็อปคุ้ม ตลอดระยะเวลาแคมเปญ 3 เดือน ตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2566-24 ตุลาคม 2566
มั่นใจว่าด้วยการขยายสาขาต่อเนื่อง และบริการใหม่ ๆ และกิจกรรมการตลาด จะช่วยให้ปีนี้มีรายได้ถึง 4 หมื่นล้านบาทแน่นอน นายวีรธรรมย้ำในตอนท้าย
22/7/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 22 กรกฎาคม 2566 )
