เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยิ้มรับต้นปี Q1/66 โตพุ่ง 97% เดินหน้าลุยขยายสาขา-บริการ Grab and Go พร้อมปรับเมนูใหม่ รับนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ
วันที่ 7 เมษายน 2566 นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินงานของเดอะ คอฟฟี่ คลับ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 ว่า
เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีการเติบโตของผลประกอบการในภาพรวมอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ด้วยจำนวนผู้บริโภคชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ประกอบกับการทำตลาดกับผู้บริโภคกลุ่มคนไทยให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีการเติบโตอยู่ที่ราว 97% เทียบจากระยะเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีจำนวนลูกค้าภาพรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 81% โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างจังหวัดภูเก็ต
ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ได้ต่อยอดผ่านการเดินหน้าขยายสาขา โดยเฉพาะในเมืองสำคัญและแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จังหวัดภูเก็ตที่ Old town และ Boat Lagoon ควบคู่ไปกับการเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบ Grab and Go
ซึ่งเน้นความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคคนไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้าจังซีลอน ภูเก็ต รวมถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2566 นี้ จะมี 42 สาขาทั่วประเทศไทย
รวมทั้งในปีนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ได้วางกลยุทธ์เพื่อพาร้านก้าวสู่การเติบโตทางธุรกิจ ที่จะตอกย้ำตำแหน่งร้านออลเดย์ไดนิ่งสัญชาติออสเตรเลียชั้นนำในไทย ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารเช้าใหม่ ๆ จากวัตถุดิบแห่งความยั่งยืน
ล่าสุดมาในคอนเซ็ปต์ THE BACON CLUB: Bacon and Egg Series กับการรังสรรค์ความอร่อยของเบรกฟาสต์สไตล์ออสเตรเลีย ที่มีเบคอนชิ้นโตเต็มคำ เสริมทัพความอร่อยด้วยพระเอกอย่างไข่ไก่เคจฟรี (Cage free eggs) ไข่ไก่คุณภาพคับฟองจากแม่ไก่อารมณ์ดีที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงตามแนวทางการสร้างความยั่งยืน
ที่มาพร้อม 3 เมนูใหม่ ได้แก่ เมนู Egg Benedict with Bacon Wrap ไข่ดาวน้ำพันเบคอน และเห็ด ราคาจานละ 280 บาท ตามมาด้วยเมนู Chunky Bacon with Smash Avocado ไข่ดาวน้ำเสิร์ฟพร้อม อะโวคาโดบด และเบคอนซอสคาราเมล เมเปิ้ล ราคาจานละ 390 บาท และเมนู Chunky Bacon on Toast ขนมปังบริออชและไข่ เสิร์ฟพร้อม เบคอนซอสคาราเมลเมเปิ้ล ราคา 390 บาท ซึ่งเมนูอาหารเช้าพิเศษนี้มีระยะเวลาจำหน่าย ตั้งแต่วันนี้-31 พฤษภาคม 2566 เท่านั้น
นอกจากนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังสร้างความตื่นเต้น สดใหม่ และดึงดูดให้ลูกค้า ด้วยการปรับโฉมเล่มเมนูใหม่ รวมถึงเพิ่มเติมเมนูน้องใหม่เอาใจคนรักสุขภาพอย่าง Smoke Salmon salad สลัดชามโตที่มาพร้อมผักสดหลายชนิดพร้อมแซลมอน
รวมถึงการปรับเมนูอาหารอื่น ๆ ทั้งอาหารคาวและหวานให้มีความดึงดูดชวนรับประทานมากขึ้น เช่น แฟลท กริล์ล พาร์มาแฮม และผักร็อคเก็ต, แฟลท กริล์ล ผักโขม และเห็ด, สลัดซีซาร์เสิร์ฟคู่ไข่ดาวน้ำและแอนโชวี, แพนเค้กมะพร้าว, ช็อกโกแลตลาวา และแพนเค้กเบอร์รีสไตล์โฮมเมด เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลาย
ในขณะเดียวกัน เดอะ คอฟฟี่ ยังเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ต่อเนื่องทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติผ่านระบบ VIP Member ด้วยสิทธิพิเศษที่หลากหลายสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก อาทิ สิทธิพิเศษประจำเดือนเกิดสำหรับสมาชิก หรือสิทธิแลกเครื่องดื่มฟรีเมื่อสั่งเมนูอาหารที่ร่วมรายการ รวมถึงลูกค้าใหม่ รับสิทธิแลกเครื่องดื่มฟรี เมื่อทำการสมัครสมาชิกและกดรับสิทธิผ่าน The Coffee Club Application
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจากกลยุทธ์ข้างต้นจะส่งผลให้ฐานลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติของร้านมีการเติบโตในสัดส่วน 50:50 สะท้อนการเป็นร้านออลเดย์ไดนิ่งแนวหน้าของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค นางนงชนกกล่าวทิ้งท้าย
7/4/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 7 เมษายน 2566 )
