สุริยะ สั่งการกรมทางหลวงซ่อมถนนทรุดตัว-ถนนถีนานนท์ จังหวัดมหาสารคาม
สุริยะ สั่งการกรมทางหลวงเร่งซ่อมถนนทรุดตัว-แตกร้าว บริเวณ ทล.213 ถนนถีนานนท์ จังหวัดมหาสารคาม หลังประชาชนร้องเรียนจราจรติดขัดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ พร้อมให้สัญจรภายในวันที่ 22 กันยายนนี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการกรมทางหลวง (ทล.) เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวตำบลเกิ้ง จังหวัดมหาสารคาม ให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยด่วน จากกรณีมีข้อร้องเรียนถนนสาย ทล.213 บริเวณถนนถีนานนท์ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม เกิดเหตุไหล่ทางทรุดตัวและแตกร้าว เหลือช่องจราจรที่สามารถสัญจรได้เพียง 1 ช่องจราจรเท่านั้น ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาวและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมีปัญหาภายหลังจากเกิดเหตุอุทกภัย ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 แต่ในปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ไข
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า แขวงทางหลวงมหาสารคามได้รายงานบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว การประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการดึงท่อลอดในโครงการงานย้ายแนวท่อประปาออกจากแนวประสบภัยธรรมชาติผนังกั้นลำน้ำชีทรุดตัว บริเวณ ทล.213 ตอนมหาสารคาม-หนองขอน ระหว่าง กม.ที่ 3+642-3+940 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการบูรณะซ่อมแซม ทล.213 แต่เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 บริเวณดังกล่าวได้เกิดไหล่ทางทรุดตัว ผิวจราจรบวมตัวและแตกร้าว มีน้ำและสารละลายเบนโทไนต์ (Bentonite) ที่ใช้ในการคว้านเจาะท่อลอดไหลขึ้นบนผิวจราจร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจาก
ช่วงวันที่ 15-17 กันยายนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่และพื้นที่ตอนบนตลอดลำน้ำไหลผ่าน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับน้ำเดิมประมาณ 0.60 เมตร ส่งผลให้ดินโดยรอบรูเจาะที่ระดับความลึกประมาณ 5.70 เมตร เกิดการอิ่มตัว ทำให้สารละลายเบนโทไนต์ไม่สามารถแทรกตัวออกด้านข้างและด้านล่างของรูเจาะได้
จึงเกิดการไหลดันขึ้นด้านบน ดันให้ชั้นผิวทางบวมตัวขึ้นและแตกร้าว อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถปิดการจราจร เพื่อเจาะรูระบายน้ำได้ เนื่องจาก ทล.213 เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่จังหวัดมหาสารคาม มีการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เร่งแก้ปัญหาผลกระทบจากการดันท่อลอดของการประปาส่วนภูมิภาค โดยเร่งดำเนินการปรับปรุงชั้นโครงสร้างทางให้มีความแข็งแรงด้วยวิธีการอุดรอยแตกร้าวด้วยซีเมนต์มวลเบส รวมถึงการปรับปรุงชั้นพื้นทางโดยวิธีงานหมุนเวียนวัสดุชั้นทางเดิมมาใช้ใหม่ (Pavement In-Place Recycling) และการปรับปรุงชั้นผิวทางแอสฟัลติกคอนกรีต
อีกทั้งปรับช่วงเวลาสัญญาณไฟจราจรระหว่างแยกดอนยม (ทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม)-แยกวังยาว เพื่อให้มีความสัมพันธ์และสอดรับกันมากขึ้น พร้อมปรับช่องจราจรให้รถจักรยานยนต์ใช้ช่องทางในช่องไหล่ทาง เพื่อลดการตัดกระแสจราจรในช่องทางหลัก รวมถึงการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทางตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
พร้อมเปิดการจราจรให้ใช้เส้นทางได้ปกติภายในวันที่ 22 กันยายนนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. โทร.1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
20/9/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 20 กันยายน 2566 )