กล่าวสำหรับผู้บริหารพลัส พร็อพเพอร์ตี้ หนึ่งในเจ้าตลาดวงการพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์เมืองไทย กับความสำเร็จปีล่าสุดในปี 2566 ที่มียอดรับบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ทะลุ 400 โครงการ กระจายทำเลทั่วประเทศ คิดเป็นพื้นที่รับบริหารจัดการมากกว่า 20 ล้านตารางเมตร สถิติแบบนี้ฟันธงได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ
ตกผลึกธุรกิจ 4 เสาหลัก
โดย อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือแสนสิริ ระบุว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา พลัสฯ มีผลดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มียอดขายรวม 1,700 ล้านบาท ส่วนปี 2567 ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย GDP จะปรับตัวอยู่ที่ 2.6% จากปัจจัยสนับสนุนตลาดจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นโยบายภาครัฐที่ส่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลาย ๆ ด้าน
ในปีนี้ พลัสฯ วางธีมธุรกิจ Quality Framework พัฒนาระบบการทำงานแบบองค์รวม มุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยคุณภาพ นำศักยภาพความเชี่ยวชาญ ผสานเทคโนโลยีและเข้าใจความต้องการของตลาดมาต่อยอดธุรกิจ เพื่อส่งมอบบริการให้กับลูกค้าอย่างตรงใจ สร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง และมั่นใจว่ากลยุทธ์นี้จะผลักดันเป้ารายได้มากกว่า 1,800 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ พลัสฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงจาก 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.การบริการดูแลที่พักและบริหารโครงการนิติบุคคล (Property Management) 2.บริหารอาคารเชิงพาณิชย์ (Facility Management) 3.LIV-24 เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ 4.งานตัวแทน ซื้อ ขาย เช่า และที่ปรึกษางานขายโครงการ (Sale Management & Brokerage)
ความสำเร็จที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของพลัสฯ เป็นเพราะเน้นธุรกิจในตลาดที่เชี่ยวชาญ ตอกย้ำความเป็น One Stop Service และรุกขยายไปในธุรกิจใหม่ ๆ คาดว่าขยายพอร์ตเพิ่มได้มากกว่า 450 โครงการ ครอบคลุมทุกโปรดักต์และทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ออฟฟิศบิลดิ้ง คอมมิวนิตี้มอลล์ โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงาน
กลยุทธ์และแผนงานปี 2567 ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการเติบโต วางกลยุทธ์ 3 ด้านขับเคลื่อนธุรกิจ ส่งมอบคุณภาพงานบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้
1.Quality Brand-เสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ สะสมประสบการณ์คลุกคลีกับลูกบ้านอย่างใกล้ชิด เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ทำให้เข้าใจถึงความต้องการอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับลักเซอรี่ที่เข้าใจใน Customer Journey เพิ่มศักยภาพทุกจุดทัชพอยต์ในงานบริการ
สร้างประสบการณ์พิเศษเหนือระดับในทุกขั้นตอน พิถีพิถันการคัดเลือกบุคลากร จัดอบรมและตรวจสอบคุณภาพการทำงานอย่างเข้มข้นสม่ำเสมอ โดยสถาบัน PLUS Eduplex
นอกจากนี้ พลัสฯ ยกระดับมาตรฐานงานบริการให้กับหลายโครงการ มีทีมผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ Design Service & Experience ในการอยู่อาศัย รองรับความต้องการแบบ Specialise Service
พลัสฯ เข้าใจดีว่า หัวใจสำคัญของธุรกิจบริการ คือ การรักษามาตรฐานการบริการให้ได้ระดับสากล เรามุ่งมั่นรักษาความเป็นที่หนึ่งด้านคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานของการบริการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ ที่สำคัญ สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องมากกว่า 90%
แตกไลน์ วิลล่า แมเนจเมนต์
2.Business Opportunities-ต่อยอดจากธุรกิจการบริหารจัดการงานบริหารนิติบุคคล ขยายธุรกิจใหม่เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืน ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง Customer Centric เสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ ให้ครอบคลุมความต้องการแบบ 360 องศา พลัสฯ จึงพัฒนาบริการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนไป
ในปีนี้เน้นขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับลักเซอรี่ ให้สอดรับกับทิศทางตลาดอสังหาฯที่ดีเวลอปเปอร์ต่างมุ่งขยายโครงการในระดับนี้มากขึ้น เพิ่มโอกาสทางธุรกิจในเมืองตากอากาศ นอกจากบริหารงานขายและการตลาด ยังเสริมบริการหลังการเข้าอยู่อาศัยด้วย Villa Management เพื่อตอบโจทย์โททอลโซลูชั่น ให้กลุ่มนักลงทุน นำร่องที่แรกในจังหวัดภูเก็ต
นอกจากนี้ยังมี LIV-24 เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะอีกหนึ่งธุรกิจ โดยปี 2566 ที่ผ่านมา LIV-24 เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีศักยภาพอย่างมาก สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้โตขึ้นถึง 118% ปีนี้ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตจากโครงการที่พักอาศัย สู่โครงการเพื่อการพาณิชย์ รุกเข้าไปในธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของตลาดการดูแลความปลอดภัยแบบครอบคลุม
พลัสฯอันดับหนึ่งในใจลูกค้า
3.PLUS Technology-ให้ความสำคัญกับความต้องการใช้งานของลูกบ้าน มีการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับ Customer Experience มาโดยตลอด ปีนี้ได้พัฒนาให้ครอบคลุมการทำงานหลายระบบมากขึ้น เช่น Home Application ศูนย์กลางข้อมูลในการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกบ้านและนิติบุคคล มีการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกบ้านที่เปลี่ยนไป เช่น การลงทะเบียนสัตว์เลี้ยง การจัดการพัสดุที่สะดวกรวดเร็วขึ้น
ซิกเนเจอร์อีกเรื่องของพลัสฯ คือการนำเสนอ Plus Concierge Service คัดสรรงานบริการตามความต้องการใช้งานจริงของลูกบ้าน เช่น บริการทำความสะอาด ล้างแอร์ งานซ่อมบำรุง โดยคัดเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพราคาพิเศษ และแอปใช้งานง่ายจองบริการได้ด้วยตัวเอง
วันนี้ พลัสฯ ประกาศชัดเจนเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในใจลูกค้า เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เรามุ่งมั่นเป็นเลิศในการสร้างมาตรฐานและยกระดับการบริการตามสากล โดยวางสัดส่วนรายได้อันดับ 1 มาจากการบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารเพื่อการพาณิชย์ 80% พร้อมเดินหน้ามองหาลูกค้ารายใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ในปีนี้
14/3/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 14 มีนาคม 2567 )
