บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ผู้นำคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า โชว์ Backlog แข็งแกร่ง 11,371 ล้านบาท หนุนการเติบโตระยะยาว มั่นใจแผ่นดินไหวคอนโดกระทบระยะสั้น มีปัจจัยบวกหนุนให้ตลาดฟื้นตัว ชี้ 2 มาตรการรัฐปลดล็อก LTV-ต่ออายุลดค่าโอน-จดจำนอง ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ สร้างความเชื่อมั่นลูกค้า
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้ คาดว่าจะมีความท้าทาย และความไม่แน่นอนเกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกองค์กรต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปให้ได้
สูตรธุรกิจรับมือวิกฤต รองรับ ปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่น
โดยอนันดาฯ ได้มีการวางแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อม รองรับ ปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่น ไปตามสถานการณ์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
โดยมองว่ามาตรการต่างๆ ที่ทางภาครัฐออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ จะเป็นตัวช่วยให้ความมั่นใจกลับมาดีขึ้น เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงทุกอย่างก็จะกลับสู่ภาวะปกติ และเชื่อมั่นว่า เมืองยังคงไปต่อ
เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการอาศัยในเมือง อยู่ใกล้แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง มีความสะดวกสบายในการเดินทาง จึงจำเป็นต้องเลือกอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีราคาจับต้องได้ เพราะเมือง คือ ศูนย์รวมแห่งการพัฒนาด้านการศึกษาแหล่งความรู้ แหล่งงาน และองค์กรชั้นนำ
ทั้งนี้ อนันดาฯ ยังคงเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1.22 เท่า และยึดมั่นในการชำระคืนหุ้นกู้ทุกงวดตามกำหนด
โดยที่ผ่านมาได้ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวนตามกำหนด 100% ในปี 2566 ไตรมาส 1/68 มูลค่ารวม 15,652 ล้านบาท และเตรียมชำระคืนหุ้นกู้ตามกำหนด ในวันที่ 9 มิถุนายน 2568 มูลค่า 2,276 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัททุกราย
ซึ่งการระดมเงินทุนในการเสนอขายหุ้นกู้ทุกครั้งได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแก่บริษัทฯ ด้วยการดำเนินงานภายใต้จุดยืน Urban Living Solutions เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งช่วยในการแก้ปัญหาของชีวิตคนเมือง ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น
โดยบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนงานที่วางไว้ ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมากลับมามีกำไรในรอบ 5 ปี และอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
ตุนแบกล็อก 11,371 ล้าน 79% ของเป้าโอน 14,500 ล้าน
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดอสังหาฯ หลังจากนี้ ยังเป็นปีแห่งการประคับประคองธุรกิจ แม้จะมีปัจจัยหนุนจากแรงกระตุ้นของมาตรการภาครัฐที่ผลักดันการปลดล็อคมาตรการ LTV ให้ชั่วคราว
รวมถึงมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง 0.01% ถือว่าเป็นมาตรการที่ออกมาในจังหวะที่ดีหลังตลาดอสังหาฯ เจอวิกฤตจากแผ่นดินไหวและการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ทั้งยอดขายและยอดโอน โดยภาพรวมมองว่าตลาดอสังหาฯ ยังมีปัจจัยบวกที่มาช่วยสนับสนุนทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากมาตรการดังกล่าว อนันดาฯ จะได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ในด้านการโอนโครงการต่างๆ ด้วยจุดแข็งในฐานะผู้นำอสังหาริมทรัพย์ติดรถไฟฟ้า ที่มีสินค้าที่ดีและมีคุณภาพพร้อมอยู่พร้อมโอนบนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ
โดยมีโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท สูงกว่า 40% ของ Backlog ที่โอนภายในปี 2568 นี้ ซึ่งเข้าเกณฑ์ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้โดยตรง
โดยในปีนี้อนันดาฯ มียอด Strong Backlog แล้วกว่า 11,371 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% จากเป้าหมายยอดโอน 14,500 ล้านบาท
จ่อโอน 3 โครงการสร้างเสร็จใหม่ 12,078 ล้านบาท
รายละเอียด อนันดาฯ มีแผนที่จะโอนโครงการใหม่ คือ โครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการไอดีโอ รามคำแหง-ลำสาลี สเตชั่น พร้อมโอนในไตรมาส 2/68 ส่วนโครงการคัลเจอร์ ทองหล่อ และโครงการคัลเจอร์ จุฬา พร้อมโอนในไตรมาส 3/68
มูลค่ารวมทั้ง 3 โครงการกว่า 12,078 ล้านบาท ทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดโอนปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน และคาดว่าจะช่วยหนุนยอดโอนและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯปีนี้
โดยในไตรมาส 1/68 สามารถสร้างยอดขายกว่า 3,677 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือคิดเป็น Achieved 114 % และมีสัดส่วนยอดขายลูกค้าต่างประเทศ 53% เป็นการส่งสัญญาณดีขึ้น
จึงให้ความเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ได้นำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจตามวัตถุประสงค์ รองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศตามแผนงานที่วางไว้
ชาวคอนโดอุ่นใจ มีประกันภัยรองรับ 3.8 ล้านล้านบาท
สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมและอาคารสูงที่กังวลว่าจะได้รับผลกระทบ
แต่อาคารสูงในประเทศไทยสามารถรับมือกับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงหรือการพังถล่มของโครงสร้างหลักเลยแม้แต่กรณีเดียว
เป็นบทพิสูจน์ถึงมาตรฐานการก่อสร้างอาคารของไทยยังคงจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และได้รับการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวอย่างรัดกุมด้วยมาตรฐานการก่อสร้างต้านทานแผ่นดินไหว ปี 2550 ถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นอุตสาหกรรมคอนโดมิเนียมยังมีระบบประกันภัยรองรับ 5,994 โครงการวงเงินคุ้มครอง 3.8 ล้านล้านบาท จากการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยกว่าปีละ 2,200 ล้านบาทซึ่งไม่ต้องพึ่งพิงจากภาครัฐ
ตลาดคอนโดมิเนียมจะได้รับผลกระทบในระยะสั้น เพราะเมื่อความตื่นตระหนกและความกังวลคลี่คลายลงผู้บริโภคจะตระหนักและให้ความสำคัญกับการเลือกคอนโดมิเนียมที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจว่าดีมานด์จะกลับมาสู่ภาวะปกติ
5 ระบบ SURE ไปกับ Ananda SURE
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว อนันดาฯ ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการ ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบโครงสร้างอาคารสูง
โดยทีมผู้บริหารระดับสูงนำโดยนายชานนท์ เรืองกฤตยา พร้อมทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ ร่วมกับนิติบุคคลของอาคาร วิศวกรจากภายนอกและเจ้าหน้าที่ของกทม. (กรุงเทพมหานคร)
โดยได้รับการรับรองความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ของ กทม. ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างและระบบความปลอดภัยอย่างละเอียด ทั้งในโครงการที่ส่งมอบแล้ว และโครงการที่อยู่ในระหว่างพัฒนา ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม-3 เมษายน ครบทั้ง 95 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดฯ 69 โครงการ บ้านแนวราบ 26 โครงการ
โดยอนันดาฯ ได้ดำเนินงานตามขั้นตอนภายใต้มาตรฐาน ANANDA SURE อย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ ดังนี้
1.โครงสร้างแข็งแรง ผ่านการตรวจสอบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวทางของ ANANDA SURE เข้าตรวจสอบอาคารทุกโครงการทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันความมั่นคงของโครงสร้าง พร้อมรายงานผลอย่างโปร่งใส เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกบ้าน
2.เปิดสายด่วน 24 ชั่วโมง พร้อมช่วยเหลือทันที ลูกบ้านสามารถติดต่อเพื่อแจ้งเหตุหรือสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Call Center 02-316-2222 และ แจ้งซ่อมได้ง่ายๆ ผ่านแอป COCORO ทุกวัน ทุกเวลา พร้อมอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์
3.พร้อมดูแลหน้างาน ด้วยทีม The Works นิติบุคคลโครงการ ลงพื้นที่ทันที เพื่อดูแล ตรวจสอบ และให้คำแนะนำลูกบ้านอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานความช่วยเหลือในทุกกรณี 4.ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่าย ตรวจสอบอาคารอย่างเป็นระบบ โดยร่วมกับ บริษัทก่อสร้าง ผู้ตรวจสอบอาคารอิสระ เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการตรวจสอบและขอรับ ใบรับรองความปลอดภัยอาคาร พร้อมผ่านเกณฑ์ ตึกเขียว กทม. เพื่อยืนยันความปลอดภัยในการอยู่อาศัยตามมาตรฐานราชการ
5.ประเมินความเสียหาย และซ่อมแซมคืนสภาพเดิมอย่างมืออาชีพ ร่วมมือกับ นิติบุคคลโครงการ และ บริษัทประกันภัย ดำเนินการประเมินความเสียหาย พร้อมจัดหาผู้รับเหมาที่มีมาตรฐานเข้าแก้ไขและซ่อมแซม พื้นที่ส่วนกลางและระบบต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้การดูแลของอนันดาฯ ยังคงมีความแข็งแรง ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรมที่เคร่งครัด
วงเงินคุ้มครองลูกบ้านในห้องชุด 1-2 แสนบาท/ห้อง
นอกจากนี้ อนันดาฯ จะเป็นผู้ประสานงานกับผู้ดูแลในการเข้าไปดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้อยู่ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน* (IAR หรือ Industrial all risk) ที่นิติบุคคลอาคารชุดได้จัดทำไว้เพื่อการคุ้มครองห้องพักอาศัยและทรัพย์สินส่วนกลาง
โดยโครงการคอนโดมิเนียมของอนันดาฯ มีประกันภัยคุ้มครองอาคารและห้องชุด เพื่อช่วยลดความกังวลจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด รวมมูลค่าทุนประกันภัย 76,844 ล้านบาท ลูกบ้านอุ่นใจกับวงเงินประกันภัยความคุ้มครองภายในห้องชุด 100,000-200,000 บาท/ห้องชุด
ทั้งนี้ อนันดาฯ คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกบ้านทุกท่าน พร้อมดูแลและดำเนินการทุกอย่าง ด้วยคุณภาพการบริหารจัดการและการบริการ ภายใต้ Ananda SURE ระบบปฏิบัติการดีที่สุดในวงการอสังหาริมทรัพย์ ขับเคลื่อนทีมงานด้วยมาตรฐานสูงสุด
ครอบคลุมทุกด้านทั้ง QUALITY คุณภาพมีมาตรฐาน COMMUNITY บริการตรงใจ และ WORRY FREE โดยมี The Works ทีมนิติบุคคลมืออาชีพซึ่งทำหน้าที่นิติบุคคลบริหารจัดการโครงการต่างๆ ภายใต้มาตรฐาน Ananda SURE
พร้อมด้วย COCORO แอปพลิเคชั่น ที่ทำให้การอยู่อาศัยง่ายขึ้น สะดวก จบ ครบทุกฟีเจอร์ พร้อมมอบความมั่นใจให้กับลูกบ้านของอนันดาฯ ช่วยดูแลอย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง
มั่นใจคนเมืองต้องกลับมาใช้ชีวิตในเมือง
สำหรับปี 2568 อนันดาฯ เตรียมเปิดคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ คือ สะพานควาย มูลค่าโครงการ 8,820 ล้านบาท และ จุฬาฯ มูลค่าโครงการ 5,440 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้วางกลยุทธ์การกระจายการลงทุนด้วยการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยหลากหลายประเภทและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันในตลาด
โดยการขยายไปสู่การพัฒนาโครงการระดับ Ultra Luxury ได้แก่ โครงการ ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก โครงการที่พักอาศัยระดับอัลตร้า ลักชัวรี แห่งแรกในเอเชีย มูลค่า 15,000 ล้านบาท จากความร่วมมือระหว่าง อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กับ ปอร์เช่ ดีไซน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบระดับโลก
ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพสูงสุดของกรุงเทพฯ สุขุมวิท 38 ย่านทองหล่อ ที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์แห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครที่จะมีการเปิดโชว์ยูนิตให้ผู้สนใจได้เข้าเยี่ยมชมในช่วงกลางปี 2568 นี้
ถัดมา โครงการ MIRA VALLEY (มิรา วัลเลย์) โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักเซอรี มูลค่า 50,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 550 ไร่ บริเวณเทือกเขากมลาและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ทำเลใจกลางจังหวัดภูเก็ต นิยามใหม่ของความหรูหราภายใต้แนวคิด Green is the New Luxury ที่ผสานความหรูหราเข้ากับความยั่งยืน
โดยพัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืน รวมถึงการใช้ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน 100% เพื่อลดผลกระทบต่อทัศนียภาพ
อนันดาฯ มั่นใจคนเมืองต้องกลับมาใช้ชีวิตในเมือง ปรับเปลี่ยนวิกฤตที่ได้มาเป็นการเรียนรู้ขับเคลื่อนพลังในการพัฒนาต่อยอดสู่คุณภาพที่ยั่งยืน เพื่อให้คนเมืองได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย เติบโตและก้าวต่อไปด้วยกัน ทำให้เมืองได้ไปต่อ รวมถึงมั่นใจในศักยภาพคอนโดติดรถไฟฟ้า ที่ยังคงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของการใช้ชีวิตคนเมืองได้อย่างไร้ขีดจำกัด นายชานนท์กล่าวทิ้งท้าย
21/4/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 21 เมษายน 2568 )