AOT เปิดขุมทรัพย์แลนด์แบงก์รอบ 6 สนามบินหลัก สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ รวม 46 แปลง 2,512 ไร่ คาดเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 28,800 ล้านบาท เคาะค่าเช่าเริ่มต้น 16-240 บาท/ตร.ว./เดือน เงื่อนไขการลงทุน 13 กิจกรรมเศรษฐกิจภายใต้ พ.ร.บ.ทอท. สัญญาเช่าเริ่มต้น 3-5-10-20-30 ปี แปลงเด็ด ใกล้สุวรรณภูมิ 400 ไร่ เหมาะทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ปี 2568 AOT มีความพร้อมในการเปิดประมูลเช่าระยะยาวบนแลนด์แบงก์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ด้านเขตการบิน (แอร์ไซด์) จำนวน 46 แปลง เนื้อที่รวม 2,510 ไร่ ทำเลมีทั้งอยู่ในรั้วสนามบินและอยู่โดยรอบสนามบิน 6 แห่งหลักทั่วประเทศ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 28,800 ล้านบาท
สัญญาเช่าระยะยาว 5-30 ปี
ทั้งนี้ AOT คิกออฟแผนสร้างรายได้บนที่เช่าแลนด์แบงก์ 2,512 ไร่ ด้วยการจัดงาน AOT Property Showcase : The Six Pillars of Opportunity บนแลนด์แบงก์ทำเล 6 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ และเชียงราย
โดยรูปแบบการเช่ามีทั้งผู้ประกอบการรายกลางและรายใหญ่ สัญญาเช่ารองรับความต้องการเช่าที่หลากหลาย เริ่มต้นอายุการเช่าได้ตั้งแต่ 3 ปี, 5 ปี, 10 ปี, 20 ปี และ 30 ปี ส่วนการจะต่ออายุมากกว่า 30 ปีนั้น สามารถหาแนวทางร่วมกันได้ เพราะปัจจุบัน ทอท.มีสัญญาเช่าที่ราชพัสดุอยู่กับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง 30 ปี และเป็นหน่วยงานรัฐที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 70% การต่ออายุที่ดินเช่าจึงอยู่ในแนวทางที่สามารถทำได้
ทั้งนี้ แลนด์แบงก์ 2,512 ไร่ดังกล่าว แบ่งเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์หรือฟรีโฮลด์ ซึ่ง ทอท.มีการซื้อที่ดินกรรมสิทธิ์ต่างกรรมต่างวาระ จำนวน 681 ไร่ สัดส่วน27% ถ้าหากนักลงทุนสนใจจะขอซื้อก็เปิดออปชั่นให้มีการเจรจากับ AOT ได้ สัดส่วนอีก 73% จำนวน 1,831 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุที่ AOT เช่าใช้ประโยชน์จากกรมธนารักษ์
ลงทุน 13 ธุรกิจภายใต้ กม.AOT
ในด้านสีผังเมืองพบว่า ส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีสำหรับใช้ประโยชน์ของส่วนราชการ, สีเขียว สำหรับพื้นที่เกษตรกรรม, สีเหลือง สำหรับพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย และสีชมพู สำหรับชุมชน และกำลังจะพัฒนาเป็นสีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตาม นางสาวปวีณากล่าวถึงประเด็นสีผังเมืองว่า ผู้เช่าใช้ประโยชน์ที่ดินของ AOT สามารถลงทุนได้อย่างเปิดกว้าง จำนวน 13 กิจกรรมเศรษฐกิจ ภายใต้ข้อกำหนดกฎหมายจัดตั้ง AOT ที่เปิดช่องไว้ให้อยู่แล้วว่าเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนด้านการบินของ AOT
นำมาสู่การศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจเบื้องต้นของแปลงที่ดิน หรือ Feasibility พบว่า ผู้สนใจสามารถลงทุนได้ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม อพาร์ตเมนต์ให้เช่า โลจิสติกส์พาร์ค คลังสินค้า ศูนย์ประชุม ศูนย์การค้า โรงพยาบาล สนามกีฬา รวมถึงเมืองอัจฉริยะ
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แลนด์แบงก์ของ AOT รองรับการลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้หรือไม่ นางสาวปวีณากล่าวว่า แปลงที่ดินมีศักยภาพสูง และอยู่ทำเลใกล้สนามบิน ซึ่งมีตัวแบบที่มีการลงทุนโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เกิดขึ้นจริงในเกาหลีใต้ เป็นต้น ดังนั้น ถ้าหากกฎหมายผ่านและออกมาบังคับใช้ ก็ถือว่าแลนด์แบงก์ AOT น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจ ยกตัวอย่าง แลนด์แบงก์ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น
เราเปิดกว้างต้อนรับการลงทุนทั้งจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างเมืองการบินของไทย เช่น แลนด์แบงก์รอบสนามบินเชียงราย ในอนาคต AOT วางแผนให้รองรับผู้โดยสาร และรองรับการเป็นศูนย์กลางซ่อมเครื่องบินด้วย ซึ่งบุคลากรในธุรกิจนี้มาจากต่างประเทศ จึงมีกำลังซื้อที่มีศักยภาพสูงในอนาคต
เปิดขุมทรัพย์ที่ดิน 6 สนามบิน
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด AOT กล่าวเพิ่มเติมว่า รายละเอียดแลนด์แบงก์ 6 สนามบิน (ดูกราฟิกประกอบ) มีดังนี้
1.สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) แบ่งเป็น 1.1 โซน Airport Business 4 แปลง รวม 548 ไร่ ที่ดินทำเลทองภายในสนามบิน ใกล้ศูนย์ขนส่งสาธารณะ ติดถนนสุวรรณภูมิ 2 และ 4 เชื่อมต่อกับถนนลาดกระบัง และถนนบางนา-ตราด และห่างจากอาคารผู้โดยสารเพียง 9 นาที โดยแปลง A2, B, C และ D เหมาะสำหรับ Medical Hub & Wellness Center / Convention Hall & Exhibition Center / Hotel & Residential Area
1.2 โซน ศูนย์บริการและสนับสนุนกิจการท่าอากาศยาน 7 แปลง เป็นที่ดินฟรีโฮลด์ 462 ไร่ มีถนนและสะพานยกระดับเชื่อมจากภายนอกเข้าสู่สนามบิน เข้าออกผ่านทางถนนลาดกระบัง-วัดศรีวารีน้อย ด้วยถนน 4 เลน และห่างจากอาคารผู้โดยสาร 15 นาที เหมาะสำหรับ Logistics & Transportation Hub ศูนย์จัดการสินค้าเกษตร Hotel & Residential Area
2.สนามบินดอนเมือง (DMK) อาคาร Junction Building พื้นที่เชิงพาณิชย์ 12,000 ตร.ม. พื้นที่จอดรถ 3 ชั้น รองรับการใช้งานกว่า 1,000 ช่องจอด และมีโครงการพัฒนาต่อเนื่องเป็นโรงแรม และอาคารจอดรถเพิ่มเติม
3.สนามบินเชียงใหม่ (CNX) ที่ดิน 3 แปลง ทำเลทองรวม 19 ไร่ ติดถนนเชียงใหม่-หางดง เดินทางถึงอาคารผู้โดยสาร 13 นาที อยู่ในย่านชุมชน และสถานีขนส่งจังหวัด เหมาะสำหรับ Hotel & Residential Area / Office & Business Center / Commercial & Lifestyle Complex
4.สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI) ที่ดินผืนใหญ่บนที่ตั้งของสนามบิน รวม 762 ไร่ เดินทางถึงอาคารผู้โดยสาร 5 นาที และเดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ติดถนนเชื่อมต่อเมืองและสนามบิน เหมาะสำหรับ Hotel & Residential Area / Office & Business Center / Commercial & Lifestyle Complex / Premium Outlet / Logistics & Transportation Hub
5.สนามบินภูเก็ต (HKT) ที่ดินแปลงเด่น 7 แปลง รวม 192 ไร่ รูปแบบฟรีโฮลด์ ใกล้ถนนเทพกระษัตรี-ในยาง แปลงทำเลทองที่ติดถนนหลักเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต เดินทางถึงอาคารผู้โดยสาร 6 นาที รองรับกิจกรรมหลากหลายในการพัฒนา อาทิ Hotel & Residential Area / Convention Hall & Exhibition Center / Medical Hub & Wellness Center
6.สนามบินหาดใหญ่ (HDY) ที่ดิน 4 แปลงใหญ่ 15 แปลงย่อย รวม 502 ไร่ ทำเลอยู่ภายในและภายนอกสนามบิน ติดถนนหลักเชื่อมต่อเมือง เดินทางถึงอาคารผู้โดยสาร 5 นาที เหมาะสำหรับ Hotel & Residential Area / Office & Business Center / Commercial & Lifestyle Complex / Logistics & Transportation Hub
ทำเลกินขาด เมืองล้อมสนามบิน
ด้านนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการอิสระ และประธานกรรมการบริหารความเสี่ยงของ AOT เปิดเผยว่า โอกาสทองอสังหาริมทรัพย์ของ AOT ก้าวสู่การเป็น Aviation Hub นั้น ในฐานะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่และอัลตราลักเซอรี่ ขอร่วมเปิดมุมมองโอกาสการลงทุนของภาคเอกชน มีกติกาสนใจลงทุน 3 ข้อหลัก คือ
1.โลเกชั่น จะเห็นได้ว่าที่ดินรอบสนามบิน 6 แห่ง ศักยภาพวันนี้คือทำเลทอง เพราะเป็นสนามบินอยู่ในเมือง หรือมีเมืองล้อมสนามบินจึงมีความน่าสนใจมาก และโอกาสลงทุนก็ทำได้หลากหลายถึง 13 กิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ ลงสนามบินเชียงใหม่ใช้เวลา 5 นาที เดินทางถึงถนนนิมมานเหมินทร์ แหล่งท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์
2.ผู้ลงทุนมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยวันนี้ขอชวนคุยในเรื่องราคาค่าเช่า ซึ่งต้องบอกว่ามีทั้งถูกและแพง แต่อย่างไรก็ตาม แพงสุดคือค่าเช่า 240 บาท/ตารางวา/เดือน ยกตัวอย่าง ทำเลรอบสนามบินสุวรรณภูมิ มีค่าเช่าเริ่ม 82-240 บาท ซึ่งไม่สามารถหาเช่าที่ดินผืนใหญ่บนทำเลรอบสนามบินได้อีกแล้ว
3.แลนด์แบงก์รอบสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่ดินผืนใหญ่ 2 ผืน ขนาด 462 ไร่ กับ 548 ไร่ ศักยภาพคือเป็นทำเลไข่แดงรอบสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดย AOT มีการเปิดข้อมูลสาธารณะให้รับรู้เป็นการทั่วไป เพื่อให้ดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพและมีความสนใจลงทุนจริง ๆ และเป็นการแสดงถึงความโปร่งใสในการสรรหาผู้เช่าที่จะเข้ามาลงทุนใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต
ผมได้ลงพื้นที่สำรวจแลนด์แบงก์รอบสุวรรณภูมิ ได้สอบถามน้อง ๆ ทีมงานว่าทำไมค่าเช่า 240 บาท คำตอบคือเพราะอยู่ในเขตสนามบินมีพนักงาน รปภ.เฝ้า แสดงให้เห็นถึงเป็นทำเลทองไข่แดงของสนามบินจริง ๆ ในอดีตผมเป็นนักรีเสิร์ชซึ่งคีย์ซักเซสจะต้องมีบิ๊กดาต้าอสังหาฯในมือ ในด้านดีมานด์-ซัพพลาย คาดการณ์นักท่องเที่ยว 150 ล้านคน ยังไม่นับประชากรที่เข้ามาทำงานรองรับในเขตสนามบินอีกมหาศาล อยู่ที่นักลงทุนจะมองเห็นเป็นโอกาสและคว้าโอกาสนั้นไว้ได้หรือไม่
โดยนายยงยุทธแนะนำเคล็ดลับการลงทุนด้วยว่า แลนด์แบงก์ AOT มีความหลากหลายทั้งทำเลและค่าเช่า ดังนั้น ถ้าค่าเช่าได้มาไม่แพง การลงทุนอย่าทำเสี่ยงมาก เคล็ดลับคืออย่าทำของแพงในที่ดินไม่แพง ทำของแพงในที่ดินแพง ทำของถูกในที่ดินถูก ท่านจะประสบความสำเร็จ
TDRI ชี้ที่ดินให้เช่า วิน-วินเกม
ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการ TDRI Economic Intelligence Service สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า แลนด์แบงก์ของ AOT ทั้ง 6 สนามบินดังกล่าว มีบทบาทของทรัพย์สินรอบสนามบินที่มีศักยภาพต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคและการกระจายศูนย์กลางการลงทุน โอกาสสำหรับภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ยังคงเป็นความหวังสำคัญของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีแนวโน้มจะเปลี่ยนรูปแบบจากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ ไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่เน้นมูลค่าเพิ่มและความยั่งยืน
วันนี้ได้ยิน AOT จะปล่อยที่ให้เอกชนมาพัฒนาทำประโยชน์ ดีใจ เพราะที่ดินทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่าไม่สร้างประโยชน์ให้ใคร แต่ถ้านำมาต่อยอดด้วยการเปิดให้เช่าระยะยาว โมเดลคือวิน-วิน เป็นโอกาสให้เราช่วยกันพัฒนา ซึ่งแน่นอนว่าภายใต้ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ โอกาสการลงทุนคืออะไรบ้าง ต้องบอกว่ามีโอกาสลงทุนได้อย่างแน่นอน
โดยตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจอาจจะซึม ๆ เพราะสงครามการค้าโลก ระหว่างสหรัฐกับจีนมีผลกระทบต่อการค้าของไทยด้วย ทุกคนเป็นห่วงจีดีพีปีนี้ล่าสุดทางเวิลด์แบงก์ปรับคาดการณ์อยู่ที่ 1.6% อย่างไรก็ตาม ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และวิกฤตเศรษฐกิจทุกครั้ง เวลาวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจเติบโตได้น้อย แต่ในทางทฤษฎีการขยายตัวของเศรษฐกิจจะเหมือนโมเดลรูปแบบ K Shape กล่าวคือ มีหลายธุรกิจใน K ขาบน ซึ่งการเติบโตอาจสูงกว่าจีดีพี กับหลายธุรกิจอยู่ใน K ขาล่าง ที่การเติบโตอาจน้อยกว่าจีดีพี ทำให้ค่าเฉลี่ยของเวิลด์แบงก์จึงออกมาที่ตัวเลข 1.6% เป็นต้น
ยกตัวอย่าง ธุรกิจ K ขาบน เช่น ภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจเทคโนโลยี เวลเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ยังเติบโตดี ยกตัวอย่าง โรงหนังที่เติบโตดีมาก นั่นคือทุกวิกฤตมีโอกาส ความไม่แน่นอนทางการค้าทั่วโลกทำให้มีการเคลื่อนย้าย มีการปรับระเบียบการค้าการลงทุน มีการเคลื่อนย้ายทุน ซึ่งยุคนี้มีการแบ่งโลกเป็น 4 บล็อกใหญ่ ๆ คือ 1.บล็อกสหรัฐ ฝั่งที่เขาต้องอยู่ของเขาเองเพราะจุดชนวนสงครามการค้าโลก 2.บล็อกจีนและผองเพื่อน ทั้งรัสเซีย อิหร่าน ฯลฯ
3.บล็อกยุโรป ที่ประกอบด้วย แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ละตินอเมริกา และ 4.บล็อกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด อาทิ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งไทยด้วย ซึ่งประเทศไทยเรามีนโยบายเป็นกลาง เราเข้าได้กับทุกบล็อก จะเห็นข่าวดีจากตัวเลขส่งเสริมการลงทุนของ BOI-Board of Investment ในรอบ 2 ปี (2566-2567) ที่มีการอนุมัติส่งเสริมลงทุนจากนักลงทุนตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI-Foreign Direct Investment สูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิน 1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนในวันนี้เพื่อซื้ออนาคตในช่วง 3-4 ปีหน้า โดยอันดับ 1 เป็นการลงทุนเกี่ยวกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อันดับ 2 ชิ้นส่วนยานยนต์ ถ้าเป็นชิ้นเล็กจะขนส่งทางอากาศ ป้อนให้กับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV และรถไฮบริด และ 3.สินค้าไบโอเทคโนโลยี เช่น แพลนต์เบสโปรตีน คอสเมติก ที่ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนอย่างชัดเจนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
1/5/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 1 พฤษภาคม 2568 )
