ผู้ว่าการการรถไฟฯ เปิดไทม์ไลน์เดินหน้าปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งทางรางของไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน คาดลงนามสัญญาจ้าง 40 คันแรก ธ.ค. 68 ย้ำยังดูแลไม่ให้กระทบกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เดินหน้ายกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่พี่น้องประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาขบวนรถโดยสาร เพื่อให้สอดรับกับโครงการรถไฟทางคู่ที่เริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเดินรถ รองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยกระดับมาตรฐานการขนส่งทางรางของประเทศให้ดียิ่งขึ้น
การรถไฟฯ จึงขับเคลื่อนแผนโครงการปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 ให้เป็นรถโดยสารชั้น 3 ปรับอากาศ จำนวน 85 คัน โดยการนำมาปรับปรุงใหม่ ทั้งการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ การออกแบบเบาะที่นั่งให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น การปรับปรุงห้องสุขาให้เป็นระบบปิด และการนำรถโบกี้จ่ายไฟฟ้ากำลังปรับอากาศ (Power Car) มาใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบต่าง ๆ ในตู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในระยะแรกจะดำเนินการปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 จำนวน 40 คัน วงเงิน 295.6 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำส่งเอกสารของโครงการ เพื่อออกประกวดราคาและดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธี e-Bidding ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาจ้างได้ภายในเดือนธันวาคม 2568 และจะสามารถรับรถชุดแรกจำนวน 5 คัน ในเดือนพฤษภาคม 2569 ส่วนที่เหลืออีก 35 คันจะแล้วเสร็จจนครบทุกคันภายในต้นปี 2571 อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ จะปรับปรุงรถโดยสารที่เหลืออย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จครบทุกคัน เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ สะดวก และปลอดภัย พร้อมรองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ
กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งทางรางของไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนที่เดินทางโดยรถไฟ แต่ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ จะยังคงใส่ใจดูแลไม่ให้กระทบต่อกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และพร้อมมอบส่วนลดให้กับนักเรียนและนักศึกษาด้วย ผู้ว่าการการรถไฟฯ กล่าวทิ้งท้าย
18/3/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 18 มีนาคม 2568 )
